การขุด Bitcoin กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยเร่งการพัฒนาด้านพลังงานทดแทน
เอลซัลวาดอร์ ประเทศแรกในโลกที่ Bitcoin สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ได้สร้างนิมิตหมายอันดีอีกครั้งสำหรับวงการคริปโต โดยการที่พวกเขาหันมาใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟสำหรับการขุด Bitcoin ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ทั่วโลกเห็นว่าการขุด BTC นั้นมีประโยชน์ต่อวงการพลังงานมากเพียงใด
เอลซัลวาดอร์ ประเทศแรกในโลกที่ Bitcoin สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ได้สร้างนิมิตหมายอันดีอีกครั้งสำหรับวงการคริปโต โดยการที่พวกเขาหันมาใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟสำหรับการขุด Bitcoin ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ทั่วโลกเห็นว่าการขุด BTC นั้นมีประโยชน์ต่อวงการพลังงานมากเพียงใด
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน ประเด็นทางด้าน “พลังงาน” ของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 อย่าง Bitcoin (BTC) ที่ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการขุด หรือแม้แต่การใช้พลังงานสำหรับการทำธุรกรรมก็ตาม ได้กลายเป็นที่วิตกกังวลอย่างเป็นวงกว้าง แต่ทว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องดังกล่าวอาจจะไม่ได้ “ร้ายแรง” ดังที่เคยถูกกล่าวถึง โดยสำนักข่าวชื่อดังอย่าง CNBC นั้นได้https://twitter.com/DocumentingBTC/status/1444017361804271616" target="_blank" data-type="URL" data-id="
https://twitter.com/DocumentingBTC/status/1444017361804271616" rel="noreferrer noopener">นำเสนอประเด็นนี้ในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งชี้ให้เห็นถึง “การพัฒนา” ของวงการพลังงานที่มาจาก Bitcoin
ความต้องการเหรียญอันแรงกล้า นำไปสู่การพัฒนา
ปลายเดือนที่แล้ว Nayib Bukele ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ โพสต์วิดีโอผ่านบัญชี Twitter ของเขาพร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า “ก้าวแรก” และอิโมจิภูเขาไฟ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าประเทศนี้เริ่มโครงการการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟสำหรับการขุด Bitcoin อย่างเป็นทางการ และนับเป็นความสำเร็จอีกหนึ่งขั้นของประเทศแห่งนี้
ทั้งนี้กรณีการตัดสินใจของประเทศแรกในโลกที่ Bitcoin สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายอย่าง เอลซัลวาดอร์ ในการนำพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal energy) จากภูเขาไฟมาใช้เพื่อขุด Bitcoin โดยเฉพาะ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างมากของการพัฒนาด้านพลังงานสะอาดที่มาจากอุตสาหกรรมคริปโต
ทาง CNBC ระบุว่า ความต้องการในการแสวงหาสกุลเงินดิจิทัลเบอร์ 1 ของตลาดได้กลายเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้เกิดการเร่งการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนตามไปด้วย ซึ่งความพยายามในรูปแบบดังกล่าวนี่แหละที่จะสามารถกระตุ้นการจัดการกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ Bitcoin และทำให้การขุดคริปโตสีเขียวเป็นเรื่องจริงขึ้นมา นั่นเอง
ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ก้าวใหญ่ของเอลซัลวาดอร์ครั้งนี้ในการผันการขุด BTC ให้ไปสู่ระบบไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยภูเขาไฟ นั้นเข้าข่ายกรณีที่ Bitcoin สามารถทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน อย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพถือเป็นหนึ่งในสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทั้งยังมีความสะอาด และในบางสถานที่ นี่คือการหันมาใช้พลังงานจากทรัพยากรที่มีอยู่แล้วซึ่งสามารถให้พลังงานได้อย่างมหาศาล แต่ทว่าก่อรหน้านี้ไม่เคยมีการพยายามใช้งานมันมาก่อนเท่านั้นเอง
การขุด Bitcoin ที่มีคุณภาพมาจากการใช้พลังงานที่ยั่งยืน
Bradley Rettler ศาสตราจารย์ด้านปรัชญาที่มหาวิทยาลัยไวโอมิงกล่าวว่า
“นักขุด Bitcoin ทุกคนจะต้องลดความสามารถในการทำกำไรของคนอื่นทั้งหมด (เพื่อให้ตนได้กำไรสูงสุด - ผู้เขียน) นักขุดทุกคนที่ใช้พลังงานหมุนเวียนจะลดความสามารถในการทำกำไรของเหล่าผู้ทำเหมืองคนทั้งหลายที่ใช้พลังงานจากคาร์บอน (เนื่องจากความแตกต่างของต้นทุน - ผู้เขียน) ดังนั้นหากคุณต้องการให้ Bitcoin เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลงทุนในการขุดที่ยั่งยืนซะ!”
ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนนี้ ทางเอลซัลวาดอร์ได้ขุด Bitcoin โดยใช้พลังงานจากภูเขาไฟไปแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้น 0.00599179 BTC หรือคิดเป็นเงินประมาณ $269 ซึ่งนี่เป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้น แต่หากมอกกันในระยะยาวแล้วล่ะก็... เส้นทางการขุด Crypto อย่างยั่งยืนของเอลซัลวาดอร์นั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย
