Bitcoin ในมือผู้ถือระยะยาวแตะจุดต่ำสุดรอบ 8 เดือน สัญญาณบวกหรือเตือนร่วงต่อถึง 68,000 ดอลลาร์?
จำนวน Bitcoin ที่ถือโดยนักลงทุนระยะยาวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวรับสำคัญไม่สามารถรักษาระดับราคาไว้ได้ อาจเกิดการปรับฐานลึกถึง 68,500 ดอลลาร์

จำนวน Bitcoin ที่ถือโดยนักลงทุนระยะยาวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าหากแนวรับสำคัญไม่สามารถรักษาระดับราคาไว้ได้ อาจเกิดการปรับฐานลึกถึง 68,500 ดอลลาร์
ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า นักลงทุนระยะยาวของ Bitcoin (Long-Term Holders : LTHs) หรือผู้ที่ถือเหรียญไว้อย่างน้อย 155 วัน กำลังลดการถือครองลงอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนธันวาคม ปริมาณ Bitcoin ในกระเป๋าของนักลงทุนกลุ่มนี้ลดเหลือเพียง 14.3 ล้าน BTC จากระดับ 14.8 ล้าน BTC ในกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
เมื่อคิดเป็นสัดส่วน ปริมาณการถือครองของนักลงทุนกลุ่มเหลือเพียง 71.92% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
“การลดลงของสัดส่วนการถือครองโดยนักลงทุนระยะยาวมักเกิดขึ้นในช่วงปลายของรอบตลาด เมื่อผู้ถือรายใหญ่เริ่มขายทำกำไร และนักลงทุนรายย่อยเข้ามาแทนที่” รายงานของ Glassnode ระบุ
ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน ตัวเลขนี้เคยลดลงในจังหวะที่ Bitcoin ร่วงจากจุดสูงสุด 109,000 ดอลลาร์ ลงมาทำจุดต่ำที่ 74,000 ดอลลาร์ ก่อนที่ LTHs จะกลับมาซื้อเพิ่มจนสัดส่วนถือครองแตะ 76% ในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นกว่า 65% สู่จุดสูงสุดใหม่ที่ 123,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย การปรับฐานรอบนี้อาจเป็นโอกาสให้ LTHs กลับเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง โดยใช้ราคาช่วง 84,000 ดอลลาร์ เป็นแนวรับสำคัญของรอบใหม่
สัญญาณการยอมแพ้จากผู้ถือระยะยาวเริ่มชัด
ข้อมูลจาก CryptoQuant พบว่า การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการถือครองของ LTHs ในรอบ 30 วัน ลดลงมากถึง 1.1 ล้าน BTC ถือเป็นระดับการลดลงรายเดือนที่มากเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์
ณ วันจันทร์ที่ผ่านมา ตัวเลขยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยหายไปอีกกว่า 761,000 BTC ในช่วง 30 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ถือระยะยาวบางส่วนเริ่ม “ยอมแพ้” ท่ามกลางความกลัวว่าราคาจะร่วงลึกกว่านี้
นอกจากนี้ ข้อมูลของ Cointelegraph ยังเผยว่า กลุ่มวาฬได้ขาย BTC มูลค่ารวม 2.78 พันล้านดอลลาร์ ในรอบ 30 วันที่ผ่านมา ทำให้แรงกดดันฝั่งขายยังคงอยู่ในตลาดอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มทางเทคนิคยังอ่อนแรง เสี่ยงร่วงถึง 68,500 ดอลลาร์
ในเชิงเทคนิค โครงสร้างกราฟของ Bitcoin ยังเปราะบาง หลังราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ (50W MA) และระดับราคาเปิดของปีที่ 93,300 ดอลลาร์
การหลุดลงใต้กรอบ Bear Flag บริเวณ 92,000 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์เป็นการยืนยันแนวโน้มขาลง โดยแนวรับถัดไปอยู่ในช่วง 83,800 ดอลลาร์ และ 80,500 ดอลลาร์
หากราคาหลุดกรอบนี้ลงไปอีก จะเปิดทางให้เกิดการปรับฐานลึกสู่เป้าหมายทางเทคนิคที่ 68,500 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับแนวรับของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 สัปดาห์ (200W MA) และจะเท่ากับการลดลงอีกราว 20% จากระดับราคาปัจจุบัน
“Bitcoin หลุดกรอบลงอีกครั้ง ยืนยันรูปแบบ Bear Flag อย่างชัดเจน” นักวิเคราะห์ Nic กล่าวบน X เมื่อวันอังคาร “แนวรับถัดไปอยู่ที่ 100-week EMA บริเวณ 85,500 ดอลลาร์ ถ้าหลุดตรงนี้ไป ระดับราคาที่ต้องจับตาคือ 83,800 ดอลลาร์ และ 81,200 ดอลลาร์”
แม้ภาพรวมจะดูอ่อนแรง แต่นักวิเคราะห์บางรายยังมองว่า หากผู้ถือระยะยาวเริ่มกลับมาซื้อสะสมอีกครั้งเหมือนเดือนเมษายน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวรอบใหม่ โดยมีแนวรับในโซน 80,000–84,000 ดอลลาร์ เป็นระดับราคาสำคัญของฝั่งขาขึ้น
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว








