Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $104,000 แต่ข้อมูลชี้! นักเทรดมืออาชีพยังเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น
แม้ราคา Bitcoin จะปรับตัวลงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค แต่นักลงทุนมืออาชีพยังคงยึดมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาในระยะข้างหน้า

แม้ราคา Bitcoin จะปรับตัวลงท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค แต่นักลงทุนมืออาชีพยังคงยึดมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาในระยะข้างหน้า
ราคา Bitcoin ร่วงลง 5.5% ระหว่างวันที่ 27–30 พฤษภาคม โดยกลับไปทดสอบที่ระดับ $104,000 อีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 11 วัน ท่ามกลางกระแสความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่แข่งที่เพิ่มสูงขึ้น
แม้จะเกิดการปรับฐาน แต่ข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์สะท้อนว่านักเทรดมืออาชีพยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวกต่อ Bitcoin โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดฟิวเจอร์สและออปชัน ซึ่งยังคงส่งสัญญาณความเชื่อมั่น ขณะที่ความต้องการถือ Stablecoin ในประเทศจีนยังคงแข็งแกร่ง ไม่ได้เกิดการเทขายออกจากตลาดในวงกว้าง
เศรษฐกิจมหภาคกดดันราคา แต่ไม่กระทบนักลงทุนมืออาชีพ
การเคลื่อนไหวของ Bitcoin ในช่วงนี้สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งแตะ 4.60% ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ 4.42% ภายในไม่กี่วันหลังนักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ราคาของ Bitcoin ร่วงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $111,970 ลงมาที่ $103,100
แม้ราคาจะปรับตัวลดลง แต่ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สยังบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดย ค่า Premium ของฟิวเจอร์สในปัจจุบันอยู่ที่ 7% ซึ่งยังอยู่ในกรอบปกติระหว่าง 5% ถึง 10% เช่นเดียวกับเมื่อ Bitcoin มีราคาซื้อขายใกล้ระดัย $110,000 ในวันที่ 27 พฤษภาคม ข้อมูลนี้สะท้อนว่าแรงกดดันในการปรับฐานไม่น่าจะเกิดจากตลาดฟิวเจอร์ส หรือการใช้เลเวอเรจมากเกินไปแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ปริมาณของสถานะที่เปิดอยู่ (Open Interest) บน Bitcoin ฟิวเจอร์ส ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับ 700,000 BTC ณ วันที่ 30 พฤษภาคม ยังลดลงเพียง 2% จากวันที่ 27 พฤษภาคม แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงรักษาตำแหน่งในตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการล้างสถานะ Long ไปประมาณ $323 ล้าน ในช่วงสี่วันที่ผ่านมา แต่ก็คิดเป็นเพียง 0.5% ของมูลค่า Open Interest ทั้งหมดเท่านั้น
ตลาดออปชันยังคงสงบ บ่งชี้มุมมองสมดุลต่อการขึ้น-ลงของราคา
ตลาด Bitcoin ออปชันก็สะท้อนความเชื่อมั่นในระดับที่มั่นคงเช่นกัน โดยค่า 25% Delta Skew ยังคงอยู่ในช่วงกลางระหว่าง -6% ถึง +6% ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังประเมินความเป็นไปได้ของการเคลื่อนไหวทั้งสองทิศทางอย่างเท่าเทียมกัน โดยหากตลาดมีแนวโน้มปรับลงอย่างรุนแรง ค่า Skew มักจะพุ่งขึ้นเกิน +6% จากความต้องการป้องกันความเสี่ยงผ่านการซื้อ Put Option
ขณะที่ในประเทศจีน Tether มีราคาซื้อขายต่ำกว่าราคากลาง USD/CNY เพียง 0.4% สะท้อนว่านักลงทุนในประเทศยังไม่ได้ออกไปจากตลาดคริปโต และน่าจะยังอยู่ในช่วง “พักรบ” รอความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจในระดับโลก
สัญญาณระยะสั้นยังคงแข็งแกร่ง แม้ ETF จะมีเงินไหลออก
แม้ในวันที่ 29 พฤษภาคม กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ จะมีเงินไหลออกสุทธิรวมกันกว่า $347 ล้าน แต่จากมุมมองทางเทคนิคและข้อมูลของตลาดอนุพันธ์ ยังไม่มีสัญญาณว่าความสนใจจากนักลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคือความเชื่อมโยงระหว่าง Bitcoin กับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งยังคงเป็นตัวชี้วัดทิศทางของราคาในช่วงนี้ ขณะที่นักลงทุนสถาบันยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวก และไม่ได้แสดงท่าทีหวาดวิตกต่อการปรับฐานของราคาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว