Spot Bitcoin ETF อาจถือครอง Bitcoin ทะลุ 1 ล้าน BTC ท่ามกลางความคาดหวังปัจจัยบวกในเดือนพฤศจิกายน
กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาอาจถือครอง Bitcoin รวมกันถึง 1,000,000 BTC ได้ภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนเตรียมรับปัจจัยบวกที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกาอาจถือครอง Bitcoin รวมกันถึง 1,000,000 BTC ได้ภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนเตรียมรับปัจจัยบวกที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
โดยปัจจัยบวกดังกล่าวประกอบไปด้วย การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการที่รัสเซียจะยกเลิกการห้ามขุด Bitcoin ภายในประเทศ
ปัจจุบัน ผู้ออกกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin รวมกันถึง 976,893 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 66.2 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5% ของมูลค่าตลาดของ Bitcoin ที่ 1.34 ล้านล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก Apollo และ SoSoValue
เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ 1 ล้าน BTC กองทุน Spot Bitcoin ETF จะต้องมีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.55 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 23,107 BTC ซึ่งต้องการเงินไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 301 ล้านดอลลาร์ภายในสัปดาห์นี้
Alessandro Ottaviani นักวิเคราะห์ Bitcoin รายหนึ่ง ยังได้ระบุว่า มีเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF กว่า 3 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และหากยังคงอัตรานี้ต่อไปในเดือนพฤศจิกายน จุดสูงสุดใหม่ของ Bitcoin อาจเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยจากสถิติแล้ว ราคา Bitcoin มักจะพุ่งสูงขึ้นหลังจากเหตุการณ์ halving ซึ่งครั้งล่าสุดได้เกิดขึ้นไปแล้วในเดือนเมษายน 2024 ขณะที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่กำลังจะมาถึงก็อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดคริปโตเช่นกัน
Bitcoin เคยปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 43% ในเดือนพฤศจิกายน 2020 หลังจากเกิดเหตุการณ์ halving ในเดือนพฤษภาคม 2020 โดย CK Zheng หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของกองทุน ZX Squared Capital คาดการณ์ว่าอาจเกิดการเคลื่อนไหวของราคาในลักษณะเดียวกันอีกครั้ง ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร
Henrik Andersson หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Apollo Capital คาดว่า "ปัจจัยชี้ขาด" ของตลาดขาขึ้นในครั้งนี้ คือการชนะของ Donald Trump โดยกล่าวว่า "หากเขาชนะ เราเชื่อว่าแนมโน้มเชิงบวกของสินทรัพย์เสี่ยงอาจผลักดันให้ Bitcoin แตะ 100,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเป็นราคาสูงสุดตลอดกาลใหม่และสร้างข่าวใหญ่ไปทั่วโลก"
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 Bitcoin มีผลตอบแทนรายเดือนที่สูงกว่าเดือนดังกล่าว เพียงสองครั้ง คือในเดือนธันวาคม 2020 และกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งเป็นเดือนแรกหลังจากการเปิดตัว Spot Bitcoin ETF ภายในสหรัฐฯ
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีกำหนดประชุมในวันที่ 6-7 พฤศจิกายนนี้ โดยเครื่องมือ Fedwatch ของ CME Group ระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงถึง 94.7% ที่คณะกรรมการฯ จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาแรงกดดันทางการเงินของผู้บริโภค และส่งผลดีต่อตลาดในระยะสั้น
ขณะเดียวกัน การที่รัสเซียจะยกเลิกการห้ามขุด Bitcoin ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ก็ถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อ Bitcoin เนื่องจากช่วยเพิ่มการกระจายตัวของเหมืองขุดและความปลอดภัยของเครือข่าย
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
