บิทคอยน์หลุดแนวรับต่ำกว่า $40,000 ส่งผลให้เกิดแรงขายแดงเดือดทั้งกระดาน

ประเด็นสรุป

• บิทคอยน์ลดลงต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ ก็ปรับตัวลงเช่นกัน
• ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อตลาดโลกในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
• ในขณะที่สินทรัพย์คริปโตรายใหญ่ได้รับผลกระทบ แต่ NFT ดูเหมือนจะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่ปรับตัวลงในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาบิทคอยน์ที่ร่วงลงตั้งแต่เมื่อวันศุกร์

บิทคอยน์ซื้อขายต่ำกว่า 40,000 ดอลลาห์

Bitcoin ซื้อขายเป็นสีแดงอีกครั้ง สินทรัพย์ดิจิทัลอันดับหนึ่งร่วงลงต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดโลก และปัจจุบัน BTC ลดลง 4.12% โดยซื้อขายที่ประมาณ 38,216 ดอลลาร์

Ethereum (ETH), Solana (SOL) และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ อีกมากมายได้รับผลกระทบเช่นกัน Ethereum ลดลง 5.3% ในวันนี้ ในขณะที่ Solana, Avalanche และ Terra ซึ่งเป็นกลุ่ม Layer 1 ที่มักถูกขนานนามว่าเป็นคู่แข่งของ Ethereum ได้ลดลง 5.9%, 7.8% และ 8.1% ตามลำดับ

โทเค็น Metaverse อย่าง Decentraland (MANA) และ The Sandbox (SAND) ก็ลดลง รวมไปถึงสองโปรเจ็คที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดของ DeFi ได้แก่ Aave และ Curve

การปรับตัวลงครั้งล่าสุดเกิดขึ้น หลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างสวยงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่า Bitcoin และสินทรัพย์อื่น ๆ จะยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้น แต่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ซื้อขายลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) 

Bitcoin นั้นลดลงมากถึง 42% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 69,000 ดอลลาห์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน และ Ethereum ลดลง 42.2% จาก 4,800 ดอลลาห์ในวันเดียวกัน Solana ลดลง 64.9% จากระดับสูงสุดตลอดกาล Dogecoin ซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 81.1% เลยทีเดียว

การดิ่งลงครั้งล่าสุดทำให้มูลค่าตลาดของคริปโตทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยลดลงมากกว่า 36.6% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์

ปัจจัยมหภาคส่งผลต่อตลาดคริปโต

เหตุการณ์เศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญหลายเหตุการณ์ได้ส่งผลกระทบต่อคริปโตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตลาดคริปโตร่วงลงจากความกลัวของสายพันธุ์ Omicron ก่อนที่ข่าวการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐจะทำให้เกิดตลาดชะลอตัวอีกครั้ง ตลาดยังผันผวนจากการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด โดยคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนหน้า ในขณะเดียวกัน ฝ่ายบริหาร Joe Biden ยืนยันการออกในการควบคุมคริปโตเคอร์เรนซีในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องด้านภูมิรัฐศาสตร์ เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดเช่นกัน นอกเหนือจากตลาดแล้ว ดัชนี S&P 500, Dow Jones และ Nasdaq-100 ก็ร่วงลง 0.41%, 0.3% และ 0.82% ตามลำดับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ในขณะที่ Bitcoin และเหรียญส่วนใหญ่ในตลาดคริปโตประสบความยากลำบากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ สินทรัพย์บางส่วนกำลังท้าทายแนวโน้มขาขึ้น เช่น ตลาด NFT แสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ (correlation) ที่ต่ำกับสินทรัพย์คริปโตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา 

NFT ชั้นนำจำนวนมากมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ว่าสินทรัพย์หลักจะพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ ราคา NFT ชื่อดังอย่าง Bored Ape Yacht Club พุ่งขึ้นถึง 100 ETH เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่คอลเล็กชันตามอวาตาร์ที่เป็นที่ต้องการตัวอื่นๆ เช่น Azuki และ mfers พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน แม้ในขณะที่ Ethereum ซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาล นักสะสม NFT กำลังเดิมพันว่าปี 2022 อาจเป็นอีกปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับกลุ่มสินทรัพย์ที่ร้อนแรงนี้

การที่สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งอย่างบิทคอยน์ (BTC) หลุดแนวรับสำคัญที่ 40,000 ดอลลาห์ ทำให้เกิดแรงขายทางจิตวิทยาท่ีตามมา ขณะนี้บริเวณ 40,000 ดอลลาห์ได้กลายเป็นแนวต้านที่สำคัญแทน ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า BTC จะฟื้นตัวกลับไปเหนือระดับนี้ในเร็ว ๆ นี้ได้หรือไม่

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ