General

มหาเศรษฐีหลายรายมั่นใจลงทุนคริปโตดีกว่าเงินสด

Webp.net Resizeimage 58.jpg

นักลงทุนที่เคยออกมาต่อต้านคริปโตเริ่มเปลี่ยนใจหันมาถือ Bitcoin และ เหรียญดิจิทัลสกุลอื่นเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าการลงทุนคริปโตดีกว่าเงินสด

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงจะหนีไม่พ้น Thomas Peterffy มหาเศรษฐีชาวฮังการีได้ออกมากล่าวผ่านสำนักข่าว Bloomberg เมื่อวันเสาร์ที่ 1 มกราคม ระบุว่านักลงทุนควรหันมาถือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในพอร์ตโฟลิโอของพวกเขาประมาณ 2%-3% เผื่อการลงทุนด้วยเงินสดนั้นเลวร้ายกว่าที่คิด ซึ่งเขาเองก็ได้ถือครองสินทรัพย์ดังกล่าวเอาไว้ในมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเช่นเดียวกัน โดยเขาได้กล่าวเสริมว่าการลงทุนคริปโตดีกว่าเงินสดตรงที่สามารถมอบผลตอบแทนที่น่าทึ่งให้แก่นักลงทุนได้อย่างแน่นอน แม้ว่าในสกุลเงินบางสกุลเงินบางสกุลอาจมีมูลค่าร่วงลงไปถึงระดับต่ำสุดก็ตาม แต่เขาก็ยังคิดว่าสินทรัพย์ประเภทนี้สามารถสร้างเงินล้านดอลลาร์ได้เช่นเดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้น Interactive Brokers Group Inc. บริษัทของ Peterffy ได้ออกมาประกาศว่าทางองค์กรพร้อมให้บริการซื้อขายคริปโตแก่ลูกค้าของเขาเมื่อกลางปี 2020 ตามกระแสความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริษัทได้รองรับ Bitcoin (BTC), Ether (ETH), Litecoin (LTC) และ Bitcoin Cash (BCH) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ กำลังเตรียมรองรับสกุลเงินอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกกว่า 5 – 10 เหรียญภายในเดือนนี้

เศรษฐีชื่อดังต่างเชื่อมั่นว่าการลงทุนคริปโตดีกว่าเงินสด

Ray Dalio Ta 849890608 1024x768.jpg
Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates

Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ก็เป็นมหาเศรษฐีชื่อดังอีกรายหนึ่งที่เผยว่าพอร์ตโฟลิโอของเขานั้นได้รวบรวม Bitcoin และ Ether มาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะออกมาแสดงความกังวลใจถึงคุณสมบัติของคริปโตในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถกักเก็บมูลค่าได้ โดยในปัจจุบัน Dalio ได้เปลี่ยนจุดยืน และ เริ่มมองว่าลงทุนคริปโตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างรายได้บนโลกที่เงินสดกลายเป็นขยะที่มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม เขาได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงความประทับใจที่คริปโตยังสามารถยืนหยัดได้ในช่วงที่ผ่านมา

“เงินสดที่นักลงทุนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดนั้น ผมกลับคิดว่าเงินสดเป็นการลงทุนที่แย่ที่สุด”

นอกจากนี้ Paul Tudor Jones ผู้จัดการกองทุนทางเลือก Hedge Fund ก็ได้ตัดสินใจซื้อ Bitcoin เมื่อปีที่แล้วเช่นเดียวกัน โดยระบุว่าสาเหตุที่เขาเลือกคริปโตก็เพื่อต้องการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อนั่นเอง

การระบาดของ COVID -19 กระตุ้นให้เกิดการยอมรับคริปโต

แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาด COVID-19 ก่อให้เกิดความวุ่นวายในระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งผลกระทบที่ตามมานั้นอาจคงอยู่ไปอีกนานหลายทศวรรษ จะเห็นได้จากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.8% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index - CPI) พุ่งขึ้นสูงเนื่องจากต้นทุนในการผลิตสินค้ารายวันก็ได้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

เหล่ามหาเศรษฐีต่างก็ได้เห็นสัญญาณอันตรายจากเงินสด และ การเข้าแทรกแซงของธนาคารกลาง จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมาลงทุนในสินทรัพย์คริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากแนวโน้มดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป ในปี 2022 นี้เราอาจได้เห็นนักลงทุนที่ร่ำรวยจำนวนมากก้าวเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นก็เป็นได้

ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงมองว่าคริปโตนั้นมีความเสี่ยงสูง

แม้ว่าปี 2021 จะเป็นปีที่คริปโตนั้นเติบโต และ ได้รับการยอมรับจากนักลงทุน และ องค์กรจำนวนมากก็ตาม แต่ทว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินที่แบนคริปโตกลับเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 2 เท่าตัวนับตั้งแต่ปี 2018 เนื่องจากพวกเขายังคงมองว่าราคาของคริปโตนั้นมีความผันผวน และ อาจสร้างความเสี่ยงให้กับผู้บริโภคได้สูง จะเห็นได้จากกรณีตัวอย่างที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปีที่ผ่านมาอย่างประเทศจีนที่ทางรัฐบาลได้ออกมาประกาศแบนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจังในเดือนกันยายน ปี 2021 ส่งผลให้องค์กร และ ผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ประเภทนี้จำเป็นต้องย้ายไปประกอบกิจการในประเทศอื่น

Fdb B9 A16 Beea 4 E B7 Aeae Cf F08 C17 E24 F 728x485 1.jpg

แน่นอนว่าประเทศไทยก็ยังเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ทางหน่วยงานรัฐยังไม่ได้ให้การยอมรับในตัวคริปโตมากนัก โดยในปีที่ผ่านมาทางธนาคารกลางได้ออกมาเผยถึงการเตรียมวางแผนออกนโยบายตีกรอบคุมคริปโตอย่างจริงจัง พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศทำการซื้อขาย หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคริปโตด้วยเช่นเดียวกัน

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC