ธนาคารจีนในเซินเจิ้นเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดของ Crypto
ธนาคารกลางในเซินเจิ้นได้เพิ่มมาตรการที่เข้มงวดของ crypto ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม "แก้ไข" พิเศษเพื่อต่อต้านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคริปโตที่ผิดกฎหมาย
ธนาคารกลางในเซินเจิ้นได้เพิ่มมาตรการที่เข้มงวดของ crypto ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม "แก้ไข" พิเศษเพื่อต่อต้านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายคริปโตที่ผิดกฎหมาย
มาตรการที่เข้มงวดของ Crypto ที่ผิดกฎหมาย
สำนักข่าว Shanghai Securities News รายงานเกี่ยวกับการใช้มาตรการที่เข้มงวดของ crypto ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย โดยธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBoC) สาขาเซินเจิ้นเพิ่งได้มีการ “ปัดกวาดและแก้ไข” 11 บริษัทใหม่ที่ต้องสงสัยว่ามีการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย crypto ที่ผิดกฎหมาย
รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่ารัฐบาลจีนยังคงดำเนินการปราบปรามด้วยมาตรการที่เข้มงวดของ crypto หลายรูปแบบกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง crypto ตามมาตรการต่อต้านการซื้อขายเงินตราต่างประเทศและหุ้นต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ถึงแม้ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อบริษัททั้ง 11 แห่ง นอกจากนี้ รายงานได้ระบุโดยอ้อมถึงเป้าหมายของการปราบปรามว่า “เว็บไซต์การเงินที่มีชื่อเสียงซึ่งต้องสงสัยในการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย
แผนงานด้านสกุลเงิลดิจิทัลของจีน
Shanghai Securities News ยังได้เปิดเผยแผนงานของธนาคารกลางในเซินเจิ้นในการดำเนินการปราบปรามบริษัทที่มีการกระทำผิดกฎหมาย โดยจะนำมาตรการนำร่องที่เรียกว่า 'การศึกษาอย่างแม่นยำ' ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะสามารถมองเห็นภาพรวมของผู้ทำธุรกรรมการเงินได้อย่างแม่นยำ รวมถึงโปรแกรมป้องกันความเสี่ยงและการศึกษาของแต่ละคน
“Carry out a pilot project of ‘precision education’ for financial consumers, use technology to enable accurate portraits of customers, and establish personalized risk prevention and education programs.”
Shanghai Securities News
มาตรการที่เข้มงวดของ crypto มากขึ้นของธนาคารกลางต่ออุตสาหกรรมคริปโตครั้ง อาจเป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลจีนที่ต้องการเพิ่มข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตได้จากการถือครองคริปโตยังคงไม่มีการออกคำสั่งห้ามที่เด็ดขาดนับตั้งแต่ปี 2017 อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีการบังคับใช้มาตรการที่มากขึ้นของรัฐบาลจีน เช่น ประเด็นการกวาดล้างการขุดคริปโต
นอกเหนือจากการปราบปรามดังกล่าว มณฑลเซินเจิ้นได้ให้ความร่วมมือกับ PBoC ในการส่งเสริมการทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางของจีน (CBDC) ซึ่งได้ประกาศในเดือนที่ผ่านมาว่าสามารถใช้หยวนดิจิทัลกับระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถประจำทางและรถไฟใต้ดิน รวมถึงใช้เติมเงินในบัตรขนส่งสาธารณะ