รายงานเผยเดือนมี.ค.ปีนี้มีตู้ ATM Bitcoin ถูกติดตั้งรายวันมากขึ้น
ตู้ ATM Bitcoin ก็ยังคงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปีนี้ มีรายงานเผยว่ามีการติดตั้งตู้ ATM Bitcoin มากกว่า 20 ตู้ต่อวัน
ตู้ ATM Bitcoin ก็ยังคงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปีนี้ มีรายงานเผยว่ามีการติดตั้งตู้ ATM Bitcoin มากกว่า 20 ตู้ต่อวัน
ตู้ ATM Bitcoin ถูกติดตั้งมากขึ้นในปีนี้
คริปโตกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกวัน อุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ได้เริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น เอทีเอ็ม Bitcoin ให้ผู้คนได้เข้าถึง BTC มากขึ้น ข้อมูลเผยว่าตอนนี้มีตู้เอทีเอ็ม Bitcoin กว่า 686 ตู้ถูกติดตั้งทั่วโลกในเดือนมีนาคม 2022 จาก 36,023 ตู้ในวันที่ 1 มีนาคม 2022 เป็น 36,709 ในวันที่ 1 เมษายน 2022
หากคำนวณดูแล้วจะพบว่ามีตู้เอทีเอ็ม Bitcoin เฉลี่ย 22 ตู้ถูกติดตั้งต่อวัน ในตอนนี้ทั่วโลกมีตู้ ATM Bitcoin ติดตั้งแล้วกว่า 36,733 ในวันที่ 11 เมษายน 2022 อ้างอิงข้อมูลจาก Coin ATM Radar
อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ทาง CoinAtmRadar รวบรวมเอาไว้ ตู้จริง ๆ อาจมีมากกว่านั้นก็เป็นได้
ผู้คนใช้คริปโตมากขึ้น
จำนวนตู้ ATM Bitcoin เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่ามีผู้ต้องการใช้คริปโตมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มีการติดตั้งตู้ ATM Bitcoin มากที่สุด
ก่อนหน้านี้มีรายงานเผยว่ามีตู้ ATM Bitcoin กว่า 20,000 ตู้ถูกติดตั้งในปี 2021 มีการติดตั้งตู้มากกว่า 50 ตู้ต่อวัน แสดงว่าแม้ราคา Bitcoin จะร่วงจากจุด All Time High ที่เคยทำเอาไว้แต่นักลงทุนก็ยังคงต้องการซื้อขาย Bitcoin อยู่
ตู้ ATM Bitcoin ไม่ต้องทำ KYC
ตู้ ATM Bitcoin เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรแต่ไม่อยากที่จะไปยุ่งยากกับกระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer หรือ KYC) ที่หากใช้งานเว็บเทรดคริปโตผู้ใช้งานจะต้องผ่านกระบวนการนี้ก่อน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าหน่วยงานทางการเงินของอังกฤษนั้นไม่เห็นด้วยกับการติดตั้งตู้เอทีเอ็ม Bitcoin นักและสั่งการให้ผู้ให้บริการเพิกถอนตู้ ATM Bitcoin ทั้งหมด
“เรากังวลเกี่ยวกับตู้ ATM Bitcoin ที่ให้บริการใน UK ตอนนี้และได้ติดต่อผู้ให้บริการเพิกถอนตู้ ATM ดังกล่าว”
ก่อนหน้านี้สิงคโปร์ก็ได้สั่งเพิกถอนตู้ ATM Bitcoin และอนุมัติผ่านร่างกฎหมายควบคุมผู้ให้บริการด้านคริปโต โดยธุรกิจด้านคริปโตจะต้องได้รับใบอนุญาตแม้ว่าพวกเขาจะเน้นการให้บริการที่ต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งธุรกิจด้านคริปโตจะตกอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและหน่วยงานต่อต้านการก่ออาชญากรรมทางการเงินด้วย