ฐานข้อมูลที่ช่วยวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์ได้ง่ายและรวดเร็ว
จะดีแค่ไหน ถ้าคุณสามารถระบุอาการต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุหลักของโรคสมองเสื่อมได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่ต้องพึ่งมือหมอจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ภายในห้านาที

จะดีแค่ไหน ถ้าคุณสามารถระบุอาการต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุหลักของโรคสมองเสื่อมได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่ต้องพึ่งมือหมอจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ภายในห้านาที
Mark Liberman ผู้อำนวยการของ Linguistic Data Consortium กำลังทำงานร่วมกับเหล่านักวิจัยที่ Penn Medicine เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่จะช่วยให้สามารถติดตามสุขภาพของระบบประสาทได้ตลอดเวลา ทำให้เหล่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถวินิจฉัยอาการต่างๆได้ทันการ รวมไปถึงช่วยให้เหล่านักวิจัยก็ประเมินการจ่ายยาและการรักษาอื่นๆได้อย่างทันท่วงที

ผู้คนมักเป็นอัลไซเมอร์โดยไม่รู้ตัว
คุณเคยรู้สึกกังวลเมื่อจู่ๆก็ไม่สามารถนึกคำศัพท์ที่คุ้นเคยออกหรือไม่? ซึ่งโดยปกติแล้วเรื่องแบบนี้มักมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่หากศึกษาให้ดีก็จะรู้ว่าปัญหาเกี่ยวกับด้านภาษาเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาทอย่างโรคอัลไซเมอร์ได้เช่นเดียวกัน
น่าเสียดายที่การวินิจฉัยเงื่อนไขการเป็นอัลไซเมอร์นั้นโดยทั่วไปแล้วต้องทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่ง Mark Liberman และ Christopher H. Browne. ศาสตราจารย์ภาษาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง กล่าวว่าบ่อยครั้งผู้คนได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคนี้มาเป็นสิบปีหรือมากกว่านั้นโดยที่พวกเขาไม่ทราบเลยแม้แต่น้อย
Liberman ได้อธิบายว่า เมื่อคนไข้เข้ามาตรวจและได้รับการวินิจฉัยโรค มันมักจะสายเกินไปแล้ว ซึ่งส่งผลให้การจ่ายยาที่เหมาะสมนั้นเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เขาได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อถึงเวลาที่ผู้คนได้รับการวินิจฉัยว่ามีความบกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย พวกเขาอาจได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการนั้นๆมานานหลายสิบปีแล้วและเราเองก็ไม่สามารถที่จะจ่ายยาให้แก่คนที่อายุ 50 หรือ 60 ปี เพื่อจะติดตามอาการของพวกเขาไปอีก 20 ปี ได้เช่นเดียวกัน ทำให้แนวทางการรักษาของโรคนี้ยังค่อนข้างคลุมเครือเหลือเกิน
และเนื่องจากปัญหาและอุปสรรคข้างต้นนี่เองจึงเป็นสาเหตุของการสร้างระบบฐานข้อมูลและการทดสอบแบบออนไลน์ด้วยตัวเองอย่างง่ายขึ้นมา ซึ่งน่าสนใจมากกว่าการมาโรงพยาบาลซ้ำๆเป็นไหนๆ
ระบุโรคร้ายได้เพียง 5 นาที
ผู้เข้าร่วมโครงการจะถูกขอให้เข้าสู่ระบบออนไลน์และทำแบบทดสอบง่ายๆสองอย่าง คือ อธิบายภาพที่พวกเขาเห็นและคิดถึงคำศัพท์ในหมวดหมู่ต่างๆที่กำหนดให้ (เช่นคำที่ขึ้นต้นด้วย "S" หรือชื่อสัตว์) โดยพวกเขาสามารถเข้าร่วมทดสอบได้มากกว่าหนึ่งครั้งและจะได้รับแบบทดสอบที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถเข้าร่วมการทดสอบนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความบกพร่องทางสติปัญญาหรือเป็นผู้สูงอายุ
การสร้างมารตรฐานในการตั้งคำถาม ผลของการวินิฉัยและงานด้านเทคนิคต่างๆในการสร้างฐานข้อมูลนั้น ทำให้การที่มีผู้เข้าร่วมทดสอบมากส่งผลดีต่อระบบโดยภาพรวม ซึ่งหัวหน้าโครงการอย่าง Liberman กล่าวว่า
“เราต้องการผู้ทดสอบคนหลายพันคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งมีภูมิหลังและเงื่อนไขที่ต่างกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบในการระบุโรคร้ายจากการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
ซึ่งนอกจากการทดสอบข้อข้างต้นแล้ว ยังมีการถามเกี่ยวกับข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์แบบไม่ระบุชื่อ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมได้อย่างถี่ถ้วน หากต้องการเข้าร่วมหรือเยี่ยมชมฐานข้อมูล สามารถเข้าได้ที่นี่
เมื่อฐานข้อมูลสมบูรณ์ทุกอย่างจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ
ผลลัพธ์สุดท้ายที่นักวิจัยกลุ่มนี้คาดหวัง คือการทำให้ระบบดังกล่าวสามารถวิเคราะห์และประเมินผู้ทำการทดสอบได้อย่างอัตโนมัติและมีความแม่นยำสูง ซึ่งพวกเขายังต้องรวบรวมข้อมูลและปรับปรุงระบบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในอนาคตหลังจากที่โครงการนี้สำเร็จ เหล่าแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกก็จะสามารถใช้ฐานข้อมูลแห่งนี้ได้โดยง่าย ซึ่งสามารถเปลี่ยนแนวทางการรักษาโรคด้านสมองชนิดนี้ไปได้ตลอดการ