A16z ระดมทุน 12.9 ล้านดอลลาร์หนุน ZAR ขยายการเข้าถึง Stablecoin สู่ผู้ไม่มีบัญชีธนาคารในปากีสถาน
ZAR สตาร์ทอัพด้านฟินเทคจากปากีสถาน เตรียมใช้เครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนกว่า 100 ล้านคนที่ยังเข้าไม่ถึงระบบการเงินสามารถใช้ Stablecoin ได้อย่างง่ายดาย
ZAR สตาร์ทอัพด้านฟินเทคจากปากีสถาน เตรียมใช้เครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนกว่า 100 ล้านคนที่ยังเข้าไม่ถึงระบบการเงินสามารถใช้ Stablecoin ได้อย่างง่ายดาย
บริษัทร่วมทุนชื่อดัง Andreessen Horowitz (A16z) นำการระดมทุนรอบใหม่มูลค่า 12.9 ล้านดอลลาร์ ให้กับ ZAR สตาร์ทอัพฟินเทคอายุเพียงหนึ่งปี ที่มีเป้าหมายทำให้ Stablecoin ของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วไปในปากีสถานและตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ
ตามรายงานของ Bloomberg การระดมทุนครั้งนี้มีการร่วมลงทุนจากบริษัทอย่าง Dragonfly Capital, VanEck Ventures, Coinbase Ventures และ Endeavor Catalyst โดย ZAR ตั้งเป้าขยายการบริการไปยังประชากรกว่า 240 ล้านคนในปากีสถาน ซึ่งมากกว่า 100 ล้านคน ยังไม่มีแม้แต่บัญชีธนาคารตามข้อมูลจากธนาคารโลก
ต่างจากบริษัทคริปโตส่วนใหญ่ที่เน้นการทำแอปพลิเคชันหรือการตลาดแลกเปลี่ยนระดับโลก ZAR วางแผนกระจาย Stablecoin ผ่าน ร้านสะดวกซื้อ Kiosks บนโทรศัพท์ และผู้ให้บริการรับโอนเงิน ที่ผู้คนคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับบริการเติมเงินมือถือและรับส่งเงินต่างประเทศ
แปลงเงินสดเป็น Stablecoin ได้ทันที
ผู้ใช้งานสามารถเดินเข้าร้านที่ร่วมรายการ สแกนคิวอาร์โค้ด และแลกเงินสดเป็น Stablecoin ที่เก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเชื่อมต่อกับบัตร Visa ที่ใช้จ่ายได้ทั่วโลก ZAR เปิดตัวแพลตฟอร์มดังกล่าวเมื่อต้นปีนี้และเผยว่ามีการตอบรับที่ดีในเขตเมืองหลัก ๆ ของปากีสถาน
บริษัทก่อตั้งโดย Sebastian Scholl และ Brandon Timinsky ผู้ซึ่งเคยขายบริษัทสตาร์ทอัพกระเป๋าเงินดิจิทัล SadaPay ให้กับบริษัท Papara ของตุรกีในปี 2024 ปัจจุบัน ZAR ระดมทุนรวมแล้วกว่า 20 ล้านดอลลาร์ และมีแผนขยายตลาดไปยังแอฟริกาในปี 2026 หากโมเดลในปากีสถานประสบความสำเร็จ
ปากีสถานเดินหน้ากำกับอุตสาหกรรมคริปโต
การระดมทุนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายของปากีสถานที่เริ่มออกกฎระเบียบด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยได้จัดตั้ง Pakistan Virtual Assets Regulatory Authority (PVARA) หรือหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ในภาคส่วนนี้อย่างเป็นทางการ
เมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลยังเปิดรับบริษัทคริปโตระดับโลกให้ยื่นขอใบอนุญาตดำเนินการในประเทศ ภายใต้ระบบการกำกับดูแลใหม่ของรัฐบาลกลาง
รายงานจาก Chainalysis ยังระบุว่าปากีสถานไต่ขึ้นสู่อันดับ 3 ของโลกในดัชนีการยอมรับคริปโตปี 2025 เพิ่มขึ้นถึงหกลำดับจากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการเติบโตที่รวดเร็วของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียใต้
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
