ราคา Ethereum ทรุดแตะ 7-Month Low พร้อมวิเคราะห์ ‘8 ปัจจัยสำคัญ’ อาจฉุดราคาดิ่งได้อีก
จับตาให้ดี! ตรวจพบ ‘8 ปัจจัยสำคัญ’ อาจดันราคา Ethereum (ETH) ร่วงได้อีกในระยะสั้น หลังราคาทรุดแตะ 7-month low วันนี้ พร้อมยังไม่หลุดกรอบ Down trend ตั้งแต่เดือนเมษาฯ
จับตาให้ดี! ตรวจพบ ‘8 ปัจจัยสำคัญ’ อาจดันราคา Ethereum (ETH) ร่วงได้อีกในระยะสั้น หลังราคาทรุดแตะ 7-month low วันนี้ พร้อมยังไม่หลุดกรอบ Down trend ตั้งแต่เดือนเมษาฯ
Table of contents
หากเปิดกราฟราคา Ethereum (ETH) ดูวันนี้ก็จะพบว่าคริปโตพี่รองของเราอยู่ในสภาพไม่ค่อยสู้ดีเสียเท่าไร ทั้งราคาที่อยู่ในกรอบ Down trend แบบชัดเจนตั้งแต่เดือนเมษาฯ พร้อมทั้งราคาที่หล่นลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนวันนี้ (14 ตุลาคม 2023)
ถ้าคิดว่าแค่นี้แย่พอแล้ว คุณก็อาจจะคิดผิด วันเดียวกัน Cointelegraph ได้มีการหยิบ Ethereum มาวิเคราะห์ พร้อมกับพบถึง ‘8 ปัจจัย’ ที่อาจจะฉุดราคาคริปโตพี่รองให้ร่วงลงไปได้อีกระดับ พร้อมชี้ชัดว่า “Ethereum กำลังสูญเสียความมั่นใจจากนักลงทุน จากตัวชี้วัดหลายอย่าง”
แล้วทั้ง 8 ปัจจัยนั้นมีอะไรบ้าง …มาดูกัน
1. นักลงทุนสูญความเชื่อมั่น/ความสนใจ
หากเราใช้ Google Trends ที่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์คำค้นหาของ Google ว่าช่วงนั้นมีผู้คนหาคำต่างๆ มากน้อยเท่าใด เราจะพบได้ว่ากราฟการค้นหาคำว่า “Ethereum” กำลังลดลงเรื่อง และยังลดลงมาสู่จุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อไม่นานมานี้
ซึ่งกราฟดังกล่าวก็อาจมองเป็นตัวชี้วัดใหญ่ตัวชี้วัดหนึ่งว่า ผู้คนกำลังหมดความสนใจในตัวของเหรียญมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ยังคงไม่มีแนวโน้มที่กราฟจะหยุดดิ่งลง
2. ผลกำไรต่ำกว่า Altcoins อื่นๆ ในระยะสั้น
นอกจากกราฟของ Google Trends แล้ว เมื่อไม่นานมานี้ราคา Ethereum ก็ลดลงมาถึง 7% ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น ในขณะที่เหรียญอื่นๆ ในตลาดส่วนใหญ่กลับไม่ได้อยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นนี้
รวมไปถึงยังพบว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มูลค่าทางการตลาดของ Ether ก็กำลังอยู่ต่ำกว่ามูลค่าทางการตลาดรวมของ Altcoin อยู่ถึง 15% สะท้อนถึงกำลังซื้อในช่วงเวลาดังกล่าวที่ยังน้อยกว่าเหรียญอื่นๆ อยู่มาก
3. ค่าแก๊สดิ่งเหว
นอกจากนี้ยังพบว่าค่าธรรมเนียมธุรกรรมเฉลี่ย 7 วันของ Ethereum ก็กำลังลดอย่างหนัก โดยลดลงมาจาก 4.7 ดอลลาร์เมื่อ 2 เดือนก่อน สู่ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 1.8 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือน
โดยค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ลดลงก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนได้ถึง Network activity ที่กำลังลดลง ซึ่งการที่ค่าธรรมเนียมดิ่งลงมาถึงจุดต่ำสุดในรอบปีก็คงไม่ใช่สัญญาณดีต่อความคึกครื้นของเครือข่ายแน่นอน
4. ตกลง ETH เป็นหลักทรัพย์ไหม?
อีกปัจจัยหนึ่งก็คงเป็นประเด็นด้านความชัดเจนทางกฎหมายของฝั่งสหรัฐฯ เอง ที่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะสามารถพิจารณา Ethereum เป็นหลักทรัพย์ได้หรือไม่ แม้แต่ ‘Charles Hoskinson’ หนึ่งในผู้ก่อสร้าง Ethereum เองก็ยังกล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ หรือ SEC นั้นกำลัง ‘ลำเอียง’ ให้หน่วยงานตัวเองนั้นได้ผลประโยชน์มากที่สุดอยู่
5. Staking Yield ก็ลดลง
ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา Yield ของการ Stake เหรียญ ETH ก็ลดลงมาจาก 4.3% สู่ 3.6% เช่นกัน ซึ่งนั่นเองก็หมายความว่าซัพพลายของ Ehereum ในแพลตฟอร์มกู้ยืมต่างๆ กำลังเพิ่มมากขึ้น และดีมานด์ไม่สามารถสู้ได้ จนเกิดการ Oversupply ขึ้น
6. DeFi ถูกรัฐเพ่งเล็งหนัก
ปฎิเศธไม่ได้ว่า DeFi นั้นถูกภาครัฐจับตามองมานานแล้ว แต่เมื่อเร็วๆ นี้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของฝรั่งเศษอย่าง The Autorité de Contrôle Prudentiel et de Résolution (ACPR) ก็ดูเหมือนว่ากำลังรุกหนักกับผู้ให้บริการ DeFi โดยมองว่ามันเป็น ‘ความเสี่ยงขั้นรุนแรง’ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎควบคุม Smart contract และระบบการ Governance
ซึ่งแน่นอนว่า Ethereum กับ DeFi ก็หนีกันไม่พ้นอยู่แล้ว ที่จนถึงวันนี้ก็ยังครองตำแหน่งการเป็นบล็อกเชนที่มีแพลตฟอร์ม DeFi อยู่มากที่สุด
7. ข้อมูล Derivatives ชี้ ความเชื่อมั่นใน Ethereum กำลังทรุด
อีกหนึ่งปัจจัยคือราคา Premium ของ Ethereum ในตลาดฟิวเจอร์สกำลังลดลง จนถึงจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนแล้วขณะนี้ ซึ่งการลดลง ณ จุดนี้ ก็สะท้อนถึงความต้องการใน ‘Long position’ ที่น้อยลงกว่าสถานการณ์ปกติ
*การ Short และการ Long คือรูปแบบการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส (Futures) ซึ่งเปรียบเสมือนการทำนายราคาสินทรัพย์ในอนาคตว่าราคาจะขึ้น หรือราคาจะลง โดยถ้าหากคาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นก็จะเป็นการ Long และหากคาดการณ์ว่าราคาจะลงก็จะเป็นการ Short
8. TVL ท่าทางไม่สู้ดี
อีกหนึ่งปัจจัยคือมูลค่าที่ล็อกไว้ หรือ TVL (Total Value Locked) บนแพลตฟอร์มต่างๆ บน Ethereum ก็พบว่าลดลงเช่นกัน ซึ่งก็สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวในฝั่งของ DeFi, DApps, DEX หรืออื่นๆ กำลังน้อยลง
โดยทั้งหมดนี้ก็คือปัจจัยที่ ‘อาจจะ’ สามารถชี้ได้ว่าราคา Ethereum มีสิทธ์ที่จะลดลงอีกในอนาคตได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าราคาจะปรับตัวลง หรือขึ้นในอนาคต เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่สามารถกระทบต่อราคาเหรียญได้ และสุดท้ายคือตัวนักลงทุนเองที่ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้ เมื่อตัดสินใจลงทุนไปแล้ว
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว