Exchange

เปิดลิสต์ 8 ข้อได้เปรียบ ที่หาได้แค่จาก 'Decentralized Exchange' เท่านั้น

เปิดลิสต์ 8 ข้อได้เปรียบ ที่หาได้แค่จาก 'Decentralized Exchange' เท่านั้น

เปิด 8 ลิสต์ข้อได้เปรียบ ที่หาได้แค่จาก Decentralized Exchange (DEX) เท่านั้น! และจะไม่มีวันหาได้จาก Centralized Exchnage (CEX) ที่ไหน

ถ้าคุณเป็นนักเทรดคริปโตที่อยู่ในตลาดมาสักระยะ คุณคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘DEX’ ที่ย่อมาจากคำว่า Decentralized Exchange มาบ้างแน่ๆ ซึ่งก็คือตามชื่อของมัน มันคือเว็บเทรดคริปโตที่ทำงานแบบกระจายศูนย์ ต่างกับเว็บเทรดทั่วๆ ไปแบบ Binance, Bitkub หรืออื่นๆ ที่เรียกว่า CEX หรือ Centralized Exchange ที่ทำงานแบบรวมศูนย์ และเป็นที่นิยมมากกว่า, ใช้ง่ายกว่า

แต่คำถามคือ... ทำไมเราต้องใช้ DEX ด้วยละ? ทั้งใช้ยากกว่า, ค่าธรรมเนียม+ค่าแก๊สแพงกว่า อะไรๆ ก็ดูยุ่งยากไปหมด?

วันนี้ CryptoSiam จึงถือโอกาสรวบรวม ‘ข้อได้เปรียบ’ แบบเข้าใจง่ายสุดๆ มา 8 ข้อ ที่จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่า ‘Decentralized exchange’ เหนือกว่าเว็บเทรดทั่วไปในจุดไหน และสุดท้ายแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน

เอาละ ไปเริ่มกันเลย...

1. ปลอดภัยจากการ Hack

หากมองภาพใหญ่ๆ หลายคนเชื่อว่า DEX ปลอดภัยกว่า CEX มาก ด้วยความที่ว่า DEX ส่วนใหญ่ ‘ผู้ใช้’ เป็นผู้ที่ควบคุม private key ของตนเอง ไม่ต้องฝากเงินของเราทั้งกระเป๋าไว้กับเว็บเทรด ซึ่งนั่นจะเท่ากับว่าไม่ว่าเว็บเทรดจะโดนแฮก, โดนโจมตี, เจ้าของหอบเงินหนีหรืออะไร เงินของเราก็จะปลอดภัยอยู่กับเราเสมอ

2. ไร้ตัวกลาง

ต่างกับ CEX ที่แม้มีกระดานเทรดให้นักลงทุนเทรด แต่สุดท้ายก็ต้องมี CEX ที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางอยู่ ต่างกับ DEX ที่เปิดให้นักเทรดเข้ามาซื้อขายกันได้แบบโดยตรง ซึ่งเป็นการตัดความจำเป็นในการมีตัวกลางออกไปได้แบบสิ้นเชิง ซึ่งตัดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของแพลตฟอร์มซื้อขาย ไม่ว่าจะเงินไม่เข้า, เข้าไม่ครบ, เหรียญไม่เข้า, แอปฯบัก หรืออะไรก็ตาม ออกไปได้หมด

3. ไร้ซึ่งข้อจำกัด

โดยทั่วไปแล้ว DEX จะออกแบบมาแบบเสรี ไม่มีการจำกัดว่าจะห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้ รวมไปถึงมักจะไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมของหน่วยงานใดๆ จึงทำให้มันจะไม่สามารถ ‘ถูกสั่ง’ ให้ปิดแพลตฟอร์มโดยภาครัฐได้ หรือแม้แต่บุคคลภายนอกอื่นๆ

4. เน้นความเป็นส่วนตัว

DEX จะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มาก ต้องบอกเลยว่าความเป็นส่วนตัวนี่แหละที่เป็นจุดขายหลักๆ เลย จึงทำให้ DEX ส่วนมากจะไม่จำเป็นต้องให้ลูกค้าทำ KYC ก่อนใช้งาน ซึ่งนอกจากความเป็นส่วนตัวแล้วก็ยังเป็นการตัดกระบวนการที่ยุ่งยากออกไปด้วย

5. เข้าถึงได้ทั่วโลก (หรือแม้แต่นอกโลก)

แน่นอนว่า DEX ทำงานโดยขุมพลังจากบล็อกเชนโดยตรง ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของบล็อกเชนก็คือการ ‘ไร้พรมแดน’ ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมใดของโลก (หรือแม้แต่นอกโลก) แค่คุณมีอินเตอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้แล้ว ซึ่งแน่นอน รวมไปถึงประเทศที่มีกฎหมายห้ามใช้งานคริปโตเช่นกัน

6. ไม่จำกัดลิมิตการถอน

สำหรับ DEX ผู้ใช้งานสามารถฝากและถอนได้มากเท่าที่ต้องการ ไม่มีลิมิตจำนวนเงินเหมือนกับหลายๆ เว็บเทรดแบบ Centralized ซึ่งอาจจะตามกฎหมายหรือเป็นมาตรการความปลอดภัยก็ตาม

7. มีเหรียญให้เลือกหลากหลาย

อย่างข้อก่อนหน้า DEX มีข้อจำกัดที่น้อยกว่าเว็บเทรดแบบธรรมดามาก ดังนั้นจึงสามารถลิสต์เหรียญได้มากกว่าโดยไม่ติดข้อจำกัดด้านกฎหมาย และยังเป็นที่นิยมของเหล่าโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่จะมาเริ่มลิสต์เหรียญของตนกันด้วย (แต่ต้องระวังเหรียญ Scam กันเองนะ!)

8. โปร่งใสกว่า

ด้วยความที่ว่า DEX ส่วนใหญ่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายใดๆ การเปิดให้แพลตฟอร์มตนเป็น open-source คือให้ทุกคนสามารถเข้ามาดูโค้ดการทำงานภายในของแพลตฟอร์มได้ ก็เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ว่าแพลตฟอร์มของตนตั้งใจมาแบบสุจริตจริงๆ 

สรุปแล้ว DEX เหมาะกับใคร?

สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าชอบแบบไหน ต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งานไหม? หรือเป็นสายเทรดเหรียญแปลก? หรืออื่นๆ ที่ว่ามาข้างต้น ถ้าใช่ DEX ก็อาจตอบโจทย์กับคุณมากกว่า CEX ก็ได้นะ

อย่างไรก็ตาม การใช้งาน DEX ความรับผิดชอบจะมาตกอยู่กับผู้ใช้งานอย่างเราๆ มากกว่า CEX เนื่องจากมักจะไม่มีหน่วยงานใดจะมาช่วยเราได้หากเกิดเหตุใดๆ หรือแม้แต่ไม่มีใครจะมาคอยคัดเหรียญดีๆ โปรเจกต์ดีๆ ให้เราก่อนที่จะเปิดให้ผู้ใช้เข้าไปเทรดได้อย่างปลอดภัยในแพลตฟอร์ม

แล้ว DEX หรือ CEX กันละ? ที่เหมาะกับคุณมากกว่า

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
กลับมาแล้ว XRP พุ่ง 100% ใน 16 วัน! ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 35 เดือน
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์