ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

70% ของนักลงทุนในตลาด Futures ถือสถานะ Long ขณะที่วาฬสะสม Ether กว่า $2 พันล้าน สัญญาณราคากำลังรอจังหวะ “เบรกเอาต์”

70% ของนักลงทุนในตลาด Futures ถือสถานะ Long ขณะที่วาฬสะสม Ether กว่า $2 พันล้าน สัญญาณราคากำลังรอจังหวะ “เบรกเอาต์”

ข้อมูลบนบล็อกเชนล่าสุดเผย แรงซื้อจากวาฬ ETH เพิ่มสูงขึ้น แม้ราคาจะยังคงติดแนวต้าน $3,000 ขณะเดียวกันสัญญา Futures กว่า 70% อยู่ฝั่ง Long และอัตราการใช้ Leverage แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แม้ราคาของ Ether จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบใต้ระดับ $3,000 แต่ข้อมูลบนบล็อกเชนกลับชี้ให้เห็นถึงแรงซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่หรือ “วาฬ” ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สัญญา Futures ทั่วโลกเริ่มเอนเอียงไปในทิศทางเดียวกัน เตรียมรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของราคา

วาฬซื้อ ETH มูลค่ารวมกว่า $2 พันล้านในไม่กี่วัน

แพลตฟอร์มข้อมูล Lookonchain ระบ ว่า “66k ETH Borrow Whale” ได้เพิ่มการถือครองอีก 40,975 ETH หรือราว $121 ล้าน ภายในวันเดียว ส่งผลให้ยอดซื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายนสูงถึง 569,247 ETH คิดเป็นมูลค่ารวม $1.69 พันล้าน

ขณะเดียวกัน กองทุน Bitmine ของ Tom Lee ก็เร่งสะสมเพิ่มเติมอีก 67,886 ETH (มูลค่า $201 ล้าน) ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และกว่า $302 ล้าน ตลอดสัปดาห์นี้

ปัจจุบัน Bitmine ถือครอง 4.06 ล้าน ETH มูลค่ารวมประมาณ $12.4 พันล้าน หรือคิดเป็น 3.37% ของอุปทานทั้งหมดของ ETH

ข้อมูลการสะสม ETH ของนักลงทุนรายใหญ่ ( ที่มา : Lookonchain/X )
ข้อมูลการสะสม ETH ของนักลงทุนรายใหญ่ ( ที่มา : Lookonchain/X )

ขณะที่บริษัท Trend Research ก็เพิ่งเข้าซื้อเพิ่มอีก 46,379 ETH ในสัปดาห์นี้ ทำให้ยอดถือครองรวมแตะราว 580,000 ETH แซงหน้ากองทุน Ether ขนาดใหญ่ยกเว้นเพียงบริษ้ท SharpLink Gaming และ Bitmine เท่านั้น

นักวิเคราะห์ชื่อ CW ระบุว่า วาฬกลุ่มใหญ่เหล่านี้กำลังถือ ETH ในต้นทุนที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดปัจจุบัน

“กำไรที่ยังไม่ได้ขายของวาฬในรอบนี้แทบเป็นศูนย์ พวกเขาไม่ได้ขายทำกำไรเลย แต่กลับเพิ่มการถือครองอย่างต่อเนื่อง” CW กล่าวบน X

สัญญา Long พุ่ง 70% ขณะที่สัญญา Leverage แตะจุดสูงสุด

ข้อมูลจาก Hyblock Capital แสดงให้เห็นว่า 70% ของสถานะสุทธิในตลาด Ether ฟิวเจอร์สบน Binance อยู่ฝั่ง Long ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา สะท้อนความเชื่อมั่นว่าราคามีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะกลางถึงยาว

สัดส่วนการเปิดสถานะ Long สุทธิทั่วโลกของ ETH ( ที่มา : Hyblock Capital )
สัดส่วนการเปิดสถานะ Long สุทธิทั่วโลกของ ETH ( ที่มา : Hyblock Capital )

ขณะเดียวกัน อัตราการใช้ Leverage โดยประมาณ (Estimated Leverage Ratio: ELR) ของ ETH ก็พุ่งแตะ 0.611 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกมา แสดงให้เห็นว่าตลาดกำลังเปิดสถานะ Leverage สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปริมาณเหรียญที่มีอยู่ในตลาดแลกเปลี่ยน

 ด้านอุปทานบนกระดานเทรดกลับหดตัวต่อเนื่อง โดย สัดส่วนอุปทาน ETH บน Binance ลดลงเหลือเพียง 0.032 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 สะท้อนว่าจำนวนเหรียญที่พร้อมขายในตลาดกำลังลดลงอย่างมาก

แรงกดดันสองทางเตรียมส่งสัญญาณเบรกเอาต์

จากมุมมองทางเทคนิค ราคา ETH ยังคงเคลื่อนไหวใต้แนวต้านสำคัญที่ $3,000 และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (200-EMA) ซึ่งโครงสร้างนี้ชี้ว่ายังมีโอกาสพักฐานต่อ

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่าง อุปทานที่ลดลงกับการใช้ Leverage ที่พุ่งสูง บ่งชี้ว่าการพุ่งขึ้นของราคาครั้งต่อไปอาจเกิดขึ้นได้เร็ว โดยเฉพาะหากมีการ “กวาดสภาพคล่อง” ใต้ระดับแนวรับสำคัญที่ $2,600 ก่อนดีดกลับขึ้นอย่างรุนแรง

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง

70% ของนักลงทุนในตลาด Futures ถือสถานะ Long ขณะที่วาฬสะสม Ether กว่า $2 พันล้าน สัญญาณราคากำลังรอจังหวะ “เบรกเอาต์”
Glassnode เผย กระแสเงินไหลออกจากกองทุน ETF สะท้อนสถาบันเริ่มถอยห่างจากคริปโต
นักวิเคราะห์จาก Galaxy ชี้ หากปรับตามอัตราเงินเฟ้อ Bitcoin ยังไม่แตะระดับ $100,000
ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในรูปแบบโทเคนพุ่ง 50 เท่าในเวลาไม่ถึงสองปี มูลค่ารวมแตะ $7 พันล้าน ดันสถาบันการเงินหันสู่การลงทุนบนบล็อกเชน