หยุดมโน! 5 ความเข้าใจผิด 'The Merge' ที่ค่า Gas ไม่ได้ถูกลง-Transaction ไม่ได้เร็วขึ้น!
เปิด 5 ความเข้าใจผิด 'The Merge' ของ Ethereum ใครคิดว่าค่า Gas ถูกลง, Transaction เร็วขึ้น มาทำความเข้าใจใหม่ด่วน! ก่อนอัปเกรดจริง 15 กันยาฯ นี้!
เปิด 5 ความเข้าใจผิด 'The Merge' ของ Ethereum ใครคิดว่าค่า Gas ถูกลง, Transaction เร็วขึ้น มาทำความเข้าใจใหม่ด่วน! ก่อนอัปเกรดจริง 15 กันยาฯ นี้!
อีกไม่กี่วันแล้วสำหรับ The Merge การอัปเกรดครั้งประวัติศาสตร์ของ Ethereum ที่แฟนๆ เฝ้ารอคอยกันมาอย่างยาวนานหลายต่อหลายปี จนใกล้จะเกิดขึ้นจริงเต็มทีในราววันที่ 15 กันยายนนี้ และคงไม่เลื่อนกำหนดอีกแล้ว
แน่นอนว่าหลายต่อหลายคนก็กำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ The Merge ว่าจริงๆ แล้วค่า Gas จะถูกลงจริงไหม? Transcation จะเร็วขึ้นจริงอย่างที่หลายๆ คนคิดไว้รึเปล่า?
จนทาง Ethereum Foundation ต้องออกมาอธิบายให้กระจ่างกันสำหรับความเข้าใจผิดต่างๆ เอาละมีอะไรบ้างที่ยังเข้าใจผิดอยู่ มาดูกัน!
1. ค่า Gas ถูกลง?
คำตอบคือผิด! Ethereum อธิบายว่าการอัปเกรดครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนกลไกประมวลผลธุรกรรม หรือ Consensus mechanism เท่านั้น "ไม่ได้เป็นการขยายขนาดบล็อกเชน" และผลที่ตามมาก็จะไม่ได้ทำให้ค่า Gas ลดลงแต่อย่างใด (ค่า Gas = ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม)
โดยค่า Gas จะถูกคำนวณโดยดีมานด์ในขณะนั้นกับความจุของเครือข่าย และการที่ The Merge เปลี่ยนกลไกจาก Proof-of-Work มาเป็น Proof-of-Stake ก็ไม่ได้เป็นการขยายขนาดเครือข่ายมากขนาดนั้น และแม้แต่ไม่มีแผนที่จะขยายกับ Ethereum เครือข่ายหลักที่เป็น Layer 1 ในเร็วๆ นี้อีกด้วย
อ่าวไหงงั้นละ!? แต่ Ethereum ก็อธิบายต่อว่า ไม่ใช่จะไม่ขยาย แต่แผนการคือจะไปเน้นกับบล็อกเชนที่เป็น Layer 2 แทน ที่จะเป็นใช้เป็นเครื่องมือในการนำมาขยายเชน Ethereum หลัก และทำให้ค่า Gas ราคาถูกขึ้นอย่างมากๆ แทน ดังนั้นใครหวังค่า Gas ถูกก็ต้องไปดู Layer 2 แทนแล้ว
2. Transaction เร็วขึ้นอย่างมาก?
ผิดอีกเหมือนกัน! การเปลี่ยนจาก Proof-of-Work มาเป็น Proof-of-Stake ไม่ได้ทำให้ธุรกรรมบน Ethereum ของคุณเร็วขึ้นสักเท่าไรหรอก
โดยเฉพาะ DApps หลายต่อหลายที่ต้องการใช้การประมวลผลธุกรรมแม้แต่สำหรับ Proof-of-Stake ก็ยังมากพอๆ กับแบบ Proof-of-Work ดังนั้นเวลาในการทำธุรกรรมจึงไม่ต่างกันมากอย่างมีนัยสำคัญหลังการอัปเกรดเกิดขึ้น
แต่ทั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะเร็วขึ้นเล็กน้อย อ้างอิงจาก Beacon chain (บล็อกเชนทดลอง Proof-of-Stake ของ Ethereum) ที่ใช้เวลาในการสร้าง Block 12 วินาที ต่างกับ Ethereum หลักที่ใช้เวลาราว 13.3 วินาที เช่นเดียวกับที่ทีมนักพัฒนา Ethereum ที่คาดว่าจะทำให้การสร้าง Block เร็วขึ้นราว 10% อีกด้วย แต่ผู้ใช้อย่างเราๆ ก็คงจะไม่รู้สึกเท่าไรหรอก
3. Ethereum จะปิดปรับปรุงตอนอัปเกรด?
ไม่ มันจะไม่เกิดขึ้น The Merge ถูกออกแบบมาให้สามารถอัปเกรดได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่มีการสะดุดใดๆ ทั้งสิ้น
โดยทีมงาน Ethereum มุ่งเน้นเรื่องนี้มาก ที่จะทำให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงไปยัง Proof-of-Stake ไม่รบกวนเครือข่ายและผู้ใช้อย่างเราๆ แม้แต่น้อย โดยเปรียบเทียบว่า The Merge จะเหมือนกับการเปลี่ยนเครื่องยนต์ของยานอวกาศที่ไม่จำเป็นต้องดับเครื่องหรืออะไรเลยในการเปลี่ยน ดังนั้นก็สบายใจได้เลย คงไม่มีระบบล่มหรืออะไรเกิดขึ้นหรอก (มั้ง)
4. จะเป็น Node ต้องใช้ 32 ETH?
อย่าเข้าใจผิดกับการเป็น Validator! ใครก็เป็น Node ได้ ไม่ได้ถือ ETH ก็ยังเป็นได้ ไม่ว่าจะก่อน The Merge, หลัง The Merge หรือตลอดไป
อธิบายกันก่อน Node ใน Ethereum (หรือทุกบล็อกเชน) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Node แบบที่เป็น Node เฉยๆ และ Node ที่เป็นกลุ่มนักขุด หรือ Validator
โดย Node ที่เป็น Node เฉยๆ จะมีหน้าที่เก็บบันทึกข้อมูลของ Blockchain ไว้ในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ที่เป็นคอมระดับบ้านๆ มีฮาร์ดดิสก์สัก 1-2 TB และมีอินเตอร์เน็ตใช้ก็สามารถเป็น Node ได้แล้ว ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยที่สูงกว่า, เป็นส่วนตัวมากกว่า ฯลฯ
แต่ Node ที่เป็นนักขุดหรือ Validator จะเป็นอีกกลุ่มที่ต้องลงทุนมากหน่อยก่อนที่จะได้เป็น โดยนักขุด (ชื่อเรียกสำหรับ Proof-of-Work) จะต้องใช้พลังในการประมวลผล อาจจะจากการ์ดจอ, เครื่อง ASIC, ซีพียูคอม หรืออะไรก็ตามในการเป็นนักขุด
ส่วน Validator (ชื่อเรียกสำหรับ Proof-of-Stake) จะเป็นการใช้เหรียญของบล็อกเชนนั้นๆ อย่าง ETH เข้าไปทำการ 'Stake' ในเครือข่ายเป็นจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยยืนยันธุรกรรมในบล็อกเชน และก็จะได้ผลตอบแทนกลับไปเป็นค่าตอบแทน ทั้งแบบนักขุด และแบบ Validator
5. stETH จะถอนได้ทันทีหลัง The Merge?
ช้าก่อน! stETH จะยังถอนออกมาไม่ได้จนกว่า 'Shanghai upgrade' ที่คาดว่าจะมาในช่วงต้นปี 2023 เกิดขึ้น
โดย stETH หรือ Staked ETH, ผลตอบแทนจากการ Stake และ ETH ที่สร้างออกมาใหม่หลัง The Merge จะยังถูกล็อคอยู่ใน Beacon chain ต่อไป โดยยังไม่สามารถถอนออกมาได้แม้แต่หลังจาก The Merge เกิดขึ้นก็ตาม
ซึ่งจะสามารถถอนออกมาได้หลัง Shanghai upgrade การอัปเกรดครั้งใหญ่ครั้งถัดไปของ Ethereum ที่ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนออกมา แต่หลายต่อหลายที่ก็คาดการณ์กันว่าจะเป็นช่วงต้นปี 2023 ที่จะถึง
DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ