เปิด 5 ฟีเจอร์เจ๋ง ‘Shibarium’ ที่อาจช่วยดันราคา SHIB ทะลุ All-time High ได้อีกครั้ง
CryptoSiam พาส่อง 5 ฟีเจอร์เจ๋งจาก ‘Shibarium’ ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน พร้อมศักยภาพใหม่ล้นๆ ...ที่อาจช่วยดันราคา SHIB ให้ทะลุ All-time High ใหม่ได้สักที
CryptoSiam พาส่อง 5 ฟีเจอร์เจ๋งจาก ‘Shibarium’ ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน พร้อมศักยภาพใหม่ล้นๆ ...ที่อาจช่วยดันราคา SHIB ให้ทะลุ All-time High ใหม่ได้สักที
Table of contents
หลังจากที่เปิดตัวไปได้ไม่กี่สัปดาห์สำหรับ ‘Shibarium’ บล็อกเชน Layer 2 ที่ถูกสร้างบน Ethereum เพื่ออัปเกรด ‘Shiba Inu’ จากเหรียญมีมธรรมดาๆ ให้กลายเป็นระบบนิเวศน์ของตนเองอย่างเต็มตัว ตัวเหรียญเองก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่เปิดให้ผู้ใช้เข้ามาใช้งาน
ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ - Shiba Inu (SHIB)
วันนี้ CryptoSiam จึงจะพาทุกคนไปดู 5 ฟีเจอร์ใหม่น่าสนใจ ที่มาพร้อมกับ ‘Shibarium’ พร้อมกับความหวังของชาวเหรียญกบที่เชื่อว่าอาจจะดันราคาให้สร้าง All-time High ใหม่ได้สักที
...มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!
1. เพิ่มความเร็วประมวลผลธุรกรรม
ในขณะความเร็วประมวลผลธุรกรรมจะเป็นปัญหาใหญ่ของ Ethereum (ซึ่งเป็นเชนที่ Shiba Inu ถูกสร้างอยู่) จะยังแก้ไม่ตกแม้จะเปลี่ยนผ่านมาเป็น Ethereum 2.0 แล้วก็ตาม ทำให้การมาของ Shibarium ที่เป็น 'บล็อกเชน Layer 2' แบบแท้ๆ นี้เองจะมาช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด
หากใครยังไม่ค่อยเข้าใจการทำงานของ Layer 2 ต้องบอกก่อนว่าบล็อกเชน Layer 2 ที่สร้างบน Ethereum ส่วนใหญ่จะมีหน้าที่คล้ายๆ บล็อกเชนเสริม เข้ามาช่วย Ethereum ประมวลผลธุรกรรมต่างๆ นั่นเอง ดังนั้น Shibarium ก็จะเป็นการทำให้ธุรกรรมต่างๆ ของ Shiba Inu รวดเร็วขึ้น, เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ฯลฯ และแน่นอนก็จะตามมาด้วยจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้น และดีมานด์เหรียญที่มากขึ้น
2. ค่า Fee ธุรกรรมถูกลง
ต่อจากข้อแรก การที่ Shibarium เข้ามาเป็น Layer 2 ให้กับ Ethereum ที่ยังมีค่า Gas แพงหูฉี่ ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน โดย Shibarium จะเป็นการทำให้ค่า Fee ของธุรกรรมต่างๆ ของ Shiba Inu ถูกลงกว่าแต่ก่อนหลายเท่า
จนเรื่องค่า Fee ถูกก็กลายมาเป็นจุดขายหนึ่งของ Shibarium ตอนนี้เลยก็ว่าได้
3. Tokenomics ดียิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ SHIB เจอปัญหาที่ซัพพลายมีมากเกินไป แม้ว่าจะมีการเผาเหรียญทิ้งเป็นจำนวนมหาศาลอยู่บ่อยๆ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้เท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม หลังจาก Shibarium เปิดตัวมาพร้อมกับเหรียญ ‘BONE’ ที่จะทำหน้าที่เป็น Native Token ใหม่ให้กับระบบนิเวศน์ โดยผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็น Validator ในเครือข่ายก็จะได้รับเหรียญ BONE เป็นรางวัลกลับไป ในขณะที่ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นก็จะมีระบบการเผาเหรียญ SHIB ทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งในทุกๆ ธุรกรรม ทำให้สามารถช่วยลดความเป็น ‘เงินเฟ้อ’ ของเหรียญลงไปได้
และนั่นเองก็จะตามมาด้วยซัพพลายที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง ในขณะที่ดีมานด์อาจจะกำลังพุ่งสูงขึ้นแซงหน้าไป
4. เปิดให้พัฒนา DApps ในเครือข่ายตัวเอง
การมาของ Shibarium ยังเป็นการเปิดให้สามารถพัฒนา DApps (Decentralized Application) ที่เป็นของตัวเองได้จริงๆ สักที โดยมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับ Ethereum ได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้บรรดานักพัฒนาต่างๆ สามารถเข้ามาสร้างโปรเจกต์ใน Shibarium ได้ และเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวระบบนิเวศน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
5. มี Ecosystem ของตัวเองซะที!
สุดท้ายแล้วการเดินทางของ Shibarium ก็ยังไม่จบอยู่เพียงเท่านี้ ตรงกันข้ามมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยความสามารถต่างๆ ของมันก็เป็นการเปิดให้โอกาสใหม่ๆ เข้ามาในระบบนิเวศ (ที่จะมาพร้อมกับดีมานด์เหรียญที่มากขึ้น) อย่างเช่นการเปิดตัว SHIB Metaverse, ShibaSwap รวมไปถึง GameFi ต่างๆ ในธีมของ Shiba Inu เช่นกัน
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการมาของ Shibarium นั้นเป็นหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Shiba Inu ที่จะเป็นการยกระดับเหรียญไปอีกขั้น ก้าวข้ามความเป็นเหรียญมีม และราคา All-time High ก็อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อม
ที่มา: Finbold
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว