4 วิธีในการเอาตัวรอดจากตลาดหมีของโลกคริปโตที่ยาวนานและโหดร้าย
ตลาดหมีคือสภาวะที่ตลาดนั้นซบเซาและผู้คนนั้นเดินหนีออกจากตลาด แล้วนักลงทุนอย่างเราๆ ต้องทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดในตลาดหมีที่โหดร้ายนี่ได้ล่ะ?
ตลาดหมีคือสภาวะที่ตลาดนั้นซบเซาและผู้คนนั้นเดินหนีออกจากตลาด แล้วนักลงทุนอย่างเราๆ ต้องทำอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดในตลาดหมีที่โหดร้ายนี่ได้ล่ะ?
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 โดยสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 อย่าง Bitcoin นั้นลดลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 68,789.63 ดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2021 เหลือเพียง 23,289.76 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการลดลงกว่า 66.09% ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้นี่เองที่ฉุดให้ทั้งตลาดสกุลเงินดิจิทัลร่วงหล่นอย่างรุนแรงและส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการหรือลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลต้องปิดตัวลง โดยการลดลงอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin ก็ได้ส่งผลกระทบเป็นโดมิโนที่ทำให้ทั่วทั้งตลาดคริปโตต้องพบกับ “ตลาดหมี” ที่โหดร้ายและรุนแรง
ตลาดหมีคือคำที่นักลงทุนนั้นไม่ได้ชื่นชอบมากมายนัก เพราะมันหมายถึงสภาวะตลาดที่ซบเซาและไร้การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ใดๆ ซึ่งตลาดหมีนั้นจะเต็มไปด้วยข่าวร้ายและสถานการณ์ที่ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดความกลัว กังวลและไม่สบายใจสำหรับการลงทุนของพวกเขา และนั้นก็อาจจะทำให้พวกเขาตัดสินใจเทขายสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่และเดินหนีออกจากตลาดการลงทุนไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อมืคนจากไปก็ต้องมีคนที่ยังอยู่และเชื่อมั่นว่าตลาดจะกลับมาได้ แล้วผู้คนเหล่านั้นเขามีวิธีการอย่างไรบ้างที่จะจัดการกับพอร์ตการลงทุนของพวกเขาและเอาตัวรอดจากตลาดหมีที่มีแต่ FUD และข่าวร้ายที่ไม่น่าฟัง?
และในบทความนี้ เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปเรียนรู้วิธีเหล่านั้นเพื่อจะได้นำมาปรับใช้กับวิธีการลงทุนของตน ซึ่งจะช่วยให้เราเอาตัวรอดจากตลาดหมีได้ด้วยกันครับ
เราจะพบเจออะไรในตลาดหมี?
ตลาดหมีนั้นดูเหมือนเป็นสิ่งที่โหดร้ายอย่างมากต่อนักลงทุนไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ อย่างไรก็ตาม ตลาดหมีนั้นก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของวงจรการลงทุน เพราะถ้าไม่มีการลดลงมาเพื่อปรับฐาน มันก็จะไม่มีการพุ่งขึ้นที่แข็งแกร่งใช่ไหมล่ะครับ
โดยตลาดหมีนั้นจะเป็นสภาวะที่มูลค่าของสินทรัพย์หรือปริมาณการซื้อ/ขายในตลาดสกุลเงินดิจิทัลลดลงประมาณ 20% หรือมากกว่านั้นวัดจากมูลค่าที่สูงสุด ไม่เพียงเท่านั้น ตลาดหมีจะมาพร้อมกับข่าวร้ายและสถานการณ์ที่ไม่ปกติมากมาย ซึ่งจะเข้ามาวัดใจและความอดทนของนักลงทุนทุกคนที่อยู่ในตลาด ซึ่งตลาดหมีนั้นอาจจะอยู่กับเราได้นานหลายเดือนหรือหลายปี ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องเตรียมแผนสำหรับการรับมือสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ดีที่สุด
4 วิธีในการเอาตัวรอดจากตลาดหมี
1. Dollar-cost averaging (DCA) คือสิ่งสำคัญ
Dollar-cost averaging คือการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งอย่างสม่ำเสมอในมูลค่าการลงทุนที่เท่ากันโดยไม่สนใจมูลค่าของสินทรัพย์ ณ ขณะนั้น ซึ่งกลยุทธนี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการลงทุนได้มากขึ้น เพราะคุณรู้ว่าจะต้องทำอะไรในเวลาไหน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้ดียิ่งขึ้น
การปรับใช้กลยุทธ์ DCA จะช่วยลดผลกระทบของความผันผวนในตลาดหมีที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนทั้งในด้านราคาและอารมณ์ที่มีต่อตลาด ซึ่งกลุยทธ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยยกระดับพอร์ตของคุณให้เติบโตได้เป็นอย่างดีในตลาดหมี
2.การทำ Money Management เพื่อการเผชิญหน้ากับความเสี่ยงได้อย่างไม่เกรงกลัว
ในช่วงที่เรายังอยู่ในตลาดหมี การทำกำไรนั้นจะไม่ง่ายเหมือนท่ีเราอยู่ในช่วงตลาดกระทิง นักลงทุนจึงควรที่จะเตรียมแผนในการลงทุนเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความเสี่ยงด้วยการจำกัดผลการขาดทุนเพื่อคุมความเสี่ยงของเราให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือจะเป็นการยอมตัดขาดทุนเพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบจากขาดทุนที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหมีนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามูลค่าของสินทรัพย์นั้นจะลดลงเพียงอย่างเดียว ในบางช่วงของตลาดหมี ราคาของสินทรัพย์ก็อาจจะมีการเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในบางครั้งจากข่าวหรือสถานการณ์ใดๆ ดังนั้น นักลงทุนต้องไม่ลืมที่จะทำกำไรเมื่อถึงจุดที่พอใจหรือวางแผนไว้ เนื่องจากเทรนด์ต่างๆในตลาดขาลงนั้นจะไม่แข็งแรงและมีความผันผวนสูง ทำให้นักลงทุนควรจะทำกำไรได้เมื่อมีโอกาส
เพราะไม่มีใครรู้ว่าตลาดหมีนั้นจะยาวนานและลดลงอย่างหนักหนาสาหัสขนาดไหน ทำให้การวางแผนเพื่อจำกัดความเสี่ยงนั้นสำคัญมากสำหรับการลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล
3.เหรียญที่มีพื้นฐานดีและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือสิ่งที่ควรมีติดพอร์ต
ตลาดหมีนั้นไม่ได้แย่และเลวร้ายเสมอไป เพราะในวิกฤติย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ ในช่วงที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้นลดลงอย่างรุนแรง นักลงทุนส่วนใหญ่ก็อาจจะเกิดความกลัวและเทขายสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาออกมา และช่วงเวลาเหล่านั้นคือโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเหรียญพื้นฐานดีในราคาถูกแบบเรา
แม้ว่าตลาดจะยังคงซบเซา มันก็ยังมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลที่ยังคงให้บริการและพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพวกเขาก็จะได้รับผลกระทบจากตลาดหมีที่เข้ามาทำให้มูลค่าของสินทรัพย์หรือสกุลเงินดิจิทัลของแพลตฟอร์มลดลง แต่มูลค่าที่ลดลงเหล่านั้นก็ไม่ได้สะท้อนว่าโครงการนี้จะปิดตัวหรือหนีหายไป
ดังนั้น หน้าที่ของนักลงทุนที่ดีคือการมองหาโครงการที่ยังคงมีผู้ใช้งายอย่างแท้จริงและยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในตลาดหมี ซึ่งโครงการเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นผู้นำที่โดดเด่นในตลาดกระทิงครั้งถัดไปครับ
4. การ Staking เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้
อีกวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้ในช่วงที่เรายังอยู่ในตลาดหมีคือการนำเหรียญหรือสินทรัพย์ที่เรามีไป Staking กับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อรับดอกเบี้ย ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกที่จะทำการ Staking บนแพลตฟอร์ม DeFi หรือ CEX ต่างๆ ได้อย่างอิสระตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยกลยุทธ์นี้ก็จะช่วยให้นักลงทุนได้กำไรจากดอกเบี้ยและสามารถนำดอกเบี้ยเหล่านั้นไปลงทุนต่อยอดได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานจะต้องศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงของแพลตฟอร์มที่สนใจให้ละเอียดก่อนการลงทุนเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการสูญเสียสินทรัพย์ที่นำไปลงทุน ดั่งที่เราได้เห็นจากกรณีของ Celsius และ Zipmex ที่กำลังโด่งดังและเป็นปัญหาใหญ่โตของบ้านเราในขณะนี้