เป็นหนี้หัวโต! 3AC ติดหนี้ 3,500 ล้านดอลลาร์ และเป็นของ Genesis กว่า 2,300 ล้านดอลลาร์
Genesis เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ถือครองสัดส่วนมากกว่า 67% ของหนี้มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของ 3AC
Genesis เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ถือครองสัดส่วนมากกว่า 67% ของหนี้มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของ 3AC
ตามข้อมูลจากเอกสารของศาลระบุว่า Three Arrows Capital หรือ 3AC เป็นหนี้มูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์กับบริษัทถึง 27 แห่ง ยกอย่างเช่น Blockchain.com, Voyager Digital และ Genesis Global Trading เป็นต้น
3AC ติดหนี้ก้อนใหญ่
3AC ถูกฟ้องเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2022 และข่าวต่างๆ ก็ถูกเผยแพร่โดย Teneo บริษัทซึ่งได้รับการว่าจ้างให้ดูแลปัญหาด้านการเงินต่างๆ ของ 3AC
ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลระบุว่า “3AC นั้นล้มเหลวในการชำระคืนเงินกู้และผิดนัดการชำระหนี้หลายครั้งกับผู้ให้กู้ ซึ่งหมายความว่าบัญชีการลงทุนของบริษัทนั้นมีมูลค่าลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนดและไม่มีเงินทุนสำรองที่มากพอเพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
3AC มีหนี้รวมทั้งสิ้น 3,500 ล้านดอลลาร์ โดย Genesis นั้นให้ 3AC ยืมเงินมากที่สุดและถือเป็นหนี้สัดส่วนใหญ่ที่สุดที่มีมูลค่ากว่า 2,300 ล้านดอลลาร์ ในเงินกู้ที่ไม่มีหลักประกันและมีข้อกำหนดมาร์จิ้นที่ 80% ตามเอกสารของศาล
3AC ควรไปพัก
เอกสารที่ยื่นต่อศาลซึ่งมีมากกว่าหนึ่งพันหน้าระบุอย่างชัดเจนว่า “3AC นั้นล้มละลายและควรยุติการดำเนินงานในแง่ต่างๆ”
คำให้การในรูปแบบลายลักษณ์อักษรที่ยื่นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2022 ของ Charles McGarraugh หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Blockchain.com เปิดเผยว่า Kyle Davies ผู้ร่วมก่อตั้ง 3AC บอกกับเขาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2022 ว่า “Davies พยายามยืม Bitcoin อีก 5,000 เหรียญจาก Genesis ซึ่งในเวลานั้นมีมูลค่าประมาณ 125 ล้านดอลลาร์ เพื่อจ่าย Margin Call ให้กับผู้ให้กู้รายอื่น”
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมากและแสดงให้เห็นว่า 3AC นั้นมีเงินทุนสำรองไม่มากพอที่จะจ่ายหนี้ได้อย่างครบถ้วนและต้องทำการหมุนเงินด้วยวิธีการยืมเงินจากเจ้าหนี้รายหนึ่งไปคืนเจ้าหนี้อีกคน
นอกจากนี้ เอกสารที่ยื่นต่อศาลยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ภายใต้ชื่อบุตรและภรรยาของ Su Zhu หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง 3AC เช่น ที่อยู่อาศัยสองแห่งในสิงคโปร์ ซึ่งมีมูลค่า 48.8 ล้านดอลลาร์ และ 28.5 ล้านดอลลาร์ อีกด้วย
คำให้การของผู้ชำระบัญชีอย่าง Russell Crumpler กรรมการผู้จัดการอาวุโสระบุว่า “ในขั้นตอนนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้ก่อตั้งบริษัทนั้นจัดการกับทรัพย์สินของบริษัทอย่างไร และทรัพย์สินของบริษัทถูกนำไปใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของพวกเขาหรือไม่”
Crumpler ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ไม่ควรอนุญาตให้ผู้ก่อตั้งบริษัทที่มีการฟ้องล้มละลายอย่างชัดเจนจัดการกับสิ่งที่อาจเป็นทรัพย์สินของบริษัท”