Bitcoin กว่า 2.3 ล้าน BTC ไม่เคลื่อนไหวมานานกว่า 10 ปี
แม้ในปัจจุบันจะมีสกุล Bitcoin (BTC) จำนวนมากถึง 19 ล้าน BTC ไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งระบบแล้วก็ตาม แต่กว่า 2.3 ล้าน BTC กลับไร้การเคลื่อนไหว ซึ่งบ่งบอกถึงการสูญหายไปจากระบบตลอดการ

แม้ในปัจจุบันจะมีสกุล Bitcoin (BTC) จำนวนมากถึง 19 ล้าน BTC ไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งระบบแล้วก็ตาม แต่กว่า 2.3 ล้าน BTC กลับไร้การเคลื่อนไหว ซึ่งบ่งบอกถึงการสูญหายไปจากระบบตลอดการ
แม้ในปัจจุบันจะมีสกุลเงินดิจิทัลผลงานชิ้นโบว์แดงของ Satoshi อย่าง Bitcoin (BTC) จำนวนมากถึง 19 ล้าน BTC ไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งระบบแล้วก็ตาม แต่ทว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่แฝงอยู่ในตัวเลขเหล่านี้นั่นก็คือจำนวน Bitcoin ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดแม้แต่น้อยในระยะเวลามากกว่า 10 ที่ผ่านมา ซึ่งเหล่าผู้เชี่ยวชาญก็มองว่าการที่ BTC ไม่เคลื่อนไหวนานขนาดนี้ มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่เหล่าผู้ใช้นั้นไม่สามารถเข้าถึงเหรียญเหล่านี้ได้แล้ว และเหรียญที่ว่าเหล่านี้ได้ “สูญหาย” ไปตลอดกาล
การที่ BTC ไม่เคลื่อนไหว เป็นพรจากฟ้า
Lex Moskovski ผู้ดำรงตำแหน่ง CIO ของ Moskovski Capital ได้ออกมาอธิบายถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า

“ด้วยการที่ผู้คนทั้งหลายได้สูญเสีย Bitcoin ของพวกเขาไป นั่นทำให้ Bitcoins ของคุณจะมีค่ามากขึ้นโดยอัตโนมัติเลยทีเดียว โดยกว่า 2,336,996 BTC ไม่เคยเคลื่อนไหวเลยแม้แต่ใน 10+ ปีที่ผ่านมา มันบอกได้ถึงการสูญหายไปแล้วอย่างแน่นอน”
แม้การสูญหายของ BTC จะเรื่องเศร้าสำหรับผู้ที่รักษามันเอาไว้ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม Moskovski กลับมองว่าการสูญเสียเหล่านี้กลับเป็นพรจากพระเจ้า เพราะเหรียญที่หายไปทำให้เกิดอุปทานขาดดุล และนั่นยิ่งส่งผลให้ Bitcoins ที่ยังคงหมุนเวียนอยู่นั้นมีค่ามากขึ้นเข้าไปอีก
Bitcoin ยังคงเติบโตได้อีกมาก
แม้หลายต่อหลายคนจะเห็นว่า Bitcoin นั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหนมาเป็นระยะกว่า 3 อาทิตย์แล้ว แต่ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบ on-chain อย่าง Ecoinometrics กลับเห็นสัญญาณเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ในอนาคต
“ด้วยคะแนนผลรวมของสถานะความเสี่ยงในปัจจุบันที่ 46% มันมีโอกาสมากที่ราคาจะวิ่งสูงขึ้น คะแนนนี้วัดว่าตลาดร้อนเกินไปหรือไม่ สีน้ำเงินมีความเสี่ยงต่ำ และสีแดงมีความเสี่ยงสูง”
*ผลรวมของสถานะความเสี่ยง (Risk Aggregation) หมายถึง การพิจารณาในองค์รวมของสถานะความเสี่ยง (Risk aggregation is consideration of risks in combination) ที่ประมวลจากข้อมูลและสถานะความเสี่ยงหลายประเด็น เพื่อประเมินในภาพรวมว่าองค์กรมีระดับความเสี่ยงในภาพรวมหรือความเสี่ยงแต่ละประเภทอยู่ในเกณฑ์ สูง ปานกลาง หรือต่ำ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมต่อไป*
ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์อย่าง Alex Kruger เองก็เพิ่งตั้งข้อสังเกตว่าตลาด Bitcoin มีเลเวอเรจน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คิด เนื่องจาก CME กระตุ้นจำนวน Open Interest (OI) ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการเติบโตนั่นเอง