Netflix ลุยสร้างสารคดีการแฮ็ก Bitfinex
Netflix ประกาศสร้างซีรี่ส์สารคดีการแฮ็ก Bitfinex ที่เล่าเรื่องราวของสองสามีภรรยาชาวนิวยอร์กที่มีความเชื่อมโยงกับคดีฟอกเงินครั้งใหญ่มูลค่ากว่า 120,000 BTC
Netflix ประกาศสร้างซีรี่ส์สารคดีการแฮ็ก Bitfinex ที่เล่าเรื่องราวของสองสามีภรรยาชาวนิวยอร์กที่มีความเชื่อมโยงกับคดีฟอกเงินครั้งใหญ่มูลค่ากว่า 120,000 BTC
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และโปรดักชันรายใหญ่ Netflix ประกาศสร้างสารคดีการแฮ็ก Bitfinex ที่โด่งดัง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคดีอาชญากรรมทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 ที่ Bitcoin (BTC) มูลค่ามากถึง 119,756 BTC หรือ เทียบเท่ากับ 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ขณะนั้น ถูกขโมยไปอย่างไร้ร่องรอย
สารคดีการแฮ็ก Bitfinex ที่ใหญ่ที่สุด
เนื้อเรื่องหลักของสารคดีเรื่องใหม่จะเน้นไปที่การเล่าเรื่องผ่าน Ilya Lichtenstein และ Heather Morgan คู่รักชาวนิวยอร์กที่ก่อคดีอาชญากรรมปล้นเงินเกือบ 120,000 BTC พร้อมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินที่ถูกขโมยไปอีกด้วย โดยทาง Netflix ได้คว้าตัว Chris Smith ผู้สร้างภาพยนต์ชาวอเมริกันมาเป็นผู้กำกับซีรีส์เรื่องดังกล่าว พร้อมด้วย Nick Bilton ก็จะเข้ามารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการร่วมสร้างภาพยนต์อีกรายหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน
โครงเรื่องคร่าว ๆ
Netflix ได้ระบุถึงเนื้อเรื่องในบางส่วนว่าในขณะที่มูลค่าของ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปนั้นเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมที่ถูกแฮ็กไปมีมูลค่าอยู่ที่ 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับเพิ่มขึ้นมาถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คู่รักชาวนิยอร์กก็ได้ถูกกล่าวหาว่าพวกเขาพยายามที่จะนำเงินดิจิทัลที่ปล้นมานั้นไปใช้ ด้วยการสร้างข้อมูลปลอม และบัญชีผู้ใช้งานออนไลน์ปลอมขึ้นมา พร้อมกับซื้อทอง, NFT และสินทรัพย์อื่น ๆ อีกจำนวนมาก ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นักสืบพยายามเร่งตามร่องรอยความเคลื่อนไหวของเงินก้อนนั้นบนเครือข่าย Blockchain
ย้อนรอยเหตุการณ์ Bitfinex ถูกแฮ็ก
ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ในวันที่ 2 สิงหาคม ปี 2016 ได้เกิดการก่อคดีอาชญากรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดดิจิทัล โดย Ilya Lichtenstein และ Heather Morgan ได้ร่วมมือกันเจาะระบบรักษาความปลอดภัยของ Bitfinex เว็บกระดานเทรดคริปโตชื่อดัง ก่อนจะดำเนินการหลอกให้ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มทำธุรกรรมส่ง Bitcoin กว่า 2,000 รายการ ซึ่งรวมแล้วเท่ากับ 119,745 BTC ไปยัง Wallet ของพวกเขา ซึ่งขณะนั้นมีมูลค่าราว 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงมากว่า 20% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แน่นอนว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับ อาชญากรได้เก็บ Bitcoin จำนวนมหาศาลเอาไว้ใน Wallet เพียงแห่งเดียว และไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งในช่วงต้นปี 2017 มี Bitcoin จำนวนหนึ่งถูกทำธุรกรรมผ่าน Alphabay ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตบน Dark web เพื่อซื้อสินค้าผิดกฎหมาย เนื่องจากการโอนย้ายคริปโตผ่านช่องทางข้างต้นจะไม่หลงเหลือร่องรอยให้ใครติดตามได้
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดหลังจากใช้เวลาสืบสวนเบาะแสต่าง ๆ มากว่า 6 ปี ปัจจุบันก็สามารถจับกุมตัวคู่รักชาวนิวยอร์กได้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมเข้ายึดของกลางจำนวนหนึ่งที่คนร้ายยังคงถือครองอยู่