Louis Vuitton เปิดตัวโทเค็น NFT คอลเลคชั่นใหม่ และเตรียมขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมเกม

Louis Vuitton แบรนด์แฟชั่นสุดหรูกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยการทดลองประสบการณ์ใหม่ ๆ กับ non-fungible tokens หรือโทเค็น NFT ด้วยการเปิดตัวของรางวัลตอบแทนอย่าง NFT Profile Picture (PFP) ในแอพเกมบนมือถือ Louis: The Game  

เกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 2021 เกมดังกล่าว ผู้เล่นจะได้เข้าสู่โลกที่พวกเขาสามารถแต่งตัวให้กับตัวละครได้ โดยเสื้อผ้าเหล่านั้นได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์ชื่อ Vivienne และสามารถเล่นไปเรื่อย ๆ เพื่อสะสมโปสการ์ดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ตลอด 200 ปีของแบรนด์ Louis Vuitton นอกจากนี้บริษัทยังได้เพิ่มภารกิจใหม่และรางวัล NFT ใหม่ให้กับแอพเกมดังกล่าว

ผู้เล่นที่สะสม NFT ฟรีในเกมได้จำนวนหนึ่งแล้ว จะมีสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การจับฉลาก NFT ซึ่งจะมีจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม (ตามที่โปสการ์ดในเกมระบุว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของ Louis Vuitton) ผู้เล่นมีโอกาสได้รับ 1 ใน 10 NFT ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Vivienne ในรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถพกพาไปได้ในหลายแพลตฟอร์มด้วยกัน เช่น PFP หรือ Profile Picture แบบ NFT

NFT ดังกล่าวได้รับความร่วมมือจาก Wenew Labs ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของ Beeple ที่ทำงานร่วมกับบริษัทในเครือ Possible และได้สร้างจากกระเป๋าเงิน Ethereum ของ Louis Vuitton อีกด้วย

โอกาสครั้งยิ่งใหญ่ของ Louis Vuitton ในวงการโทเค็น NFT

แบรนด์ Louis Vuitton ได้ทดลองใช้โทเค็น NFT และเกมบล็อกเชนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหวังว่าจะช่วยดึงดูดผู้บริโภค Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจการใช้จ่ายโดยประมาณสูงถึง 143 พันล้านดอลลาร์

เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทหลายสิบแห่ง นับตั้งแต่แบรนด์ Dolce & Gabbana ไปจนถึงแบรนด์แฟชั่นอย่าง Forever 21 ก็ได้เข้ายึดครองถนนเสมือนจริงและรันเวย์ของ Decentraland สำหรับ metaverse fashion week ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก! 

Metaverse มักถูกนิยามว่าเป็นขั้นกว่าของอินเทอร์เน็ต โดยคาดว่าจะเป็นโอกาสทางการตลาดที่มีมูลค่าถึง 800,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานของ Bloomberg Intelligence

แหล่งข่าวนี้เน้นถึงประเด็นที่ยืนยันว่าแฟชั่นดิจิทัลกำลังเป็นหนึ่งในโอกาสการเติบโตที่ใหญ่ที่สุดของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่น

Charles Hambro ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง Geeiq  ให้สัมภาษณ์ว่า "เมื่อพูดถึงสภาพแวดล้อมเสมือนจริง สิ่งนั้นแหละคืออนาคตของโซเชียลมีเดีย" โดย Geeiq จะให้คำปรึกษากับแบรนด์ต่าง ๆ เกี่ยวกับวิธีการระบุ และเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือของพันธมิตรในด้าน metaverse และเกม

Hambro กล่าวว่าแบรนด์แฟชั่นจำนวนมากได้เข้าหา Geeiq ด้วยความต้องการที่จะเชื่อมต่อกับผู้ชมในงานแฟชั่น metaverse และพยายามเข้าถึงผู้บริโภคที่อยู่ในที่แตกต่างกันออกไป แบรนด์อื่น ๆ ต่างก็พยายามคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะพวกเขาไม่ต้องการพลาดสิ่งที่แบรนด์ชื่อดังที่สุดบางแบรนด์ต่างก็ลงมือทำเหมือนกัน

แม้ว่างานวิจัยที่ตีพิมพ์โดย Piper Sandler แสดงให้เห็นว่า จากการสำรวจว่ามีวัยรุ่นเพียง 7,100 คนในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สนใจแนวคิดนี้ ในขณะที่มีวัยรุ่ ถึง 26% ที่เป็นเจ้าของเครื่อง VR แต่ก็มีเพียง 5% เท่านั้นที่จะใช้ทุกวัน 

อย่างไรก็ตาม การทดลองผ่านเกมก็ได้แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ อย่างเกม Louis: The Game ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีและไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมในการเล่น ทำให้มียอดการดาวน์โหลดแอพถึง 2 ล้านครั้ง โดยบริษัทก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ Vogue Business ในทำนองเดียวกัน

John Donahoe ซีอีโอของ Nike เผยว่า นอกจากนี้ยังมีผู้คนเกือบ 7 ล้านคนได้เยี่ยมชมร้าน Roblox ของ Nike  ในเดือนมีนาคม 2022

Robert Triefus รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Gucci ได้กล่าวเอาไว้ในการให้สัมภาษณ์กับ McKinsey ว่า Gucci เป็นผู้บุกเบิกแฟชั่น NFT ในช่วงแรก โดยมีผู้เข้าชม Roblox ถึง 19 ล้านคน

จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

การสำรวจโลกพื้นที่เสมือนจริงเป็นเรื่องดีอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น เพราะก่อนหน้านี้วงการแฟชั่นได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน  รวมไปถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เริ่มผันผวน ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ของโควิด-19

แต่วิธีการที่วงการแฟชั่นจะสามารถดึงประสิทธิภาพจากโลกเสมือนดังกล่าวเพื่อใช้ประโยชน์ได้ ยังขาดความเข้าใจอยู่พอสมควร แม้แต่ผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบางคนในพื้นที่ก็ยังสงสัยเกี่ยวกับศักยภาพนั้น ๆ

Bernard Arnault ผู้บริหารระดับสูงของ Louis Vuitton ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton กล่าวเมื่อเดือนมกราคมว่า เขากำลังพยายามระมัดระวังเกี่ยวกับฟองสบู่ในโลก metaverse อย่างมาก เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นได้เหมือนกับเหตุการณ์การระเบิดของฟองสบู่ดอทคอมในช่วงต้นปี 2000

François Pinault ผู้ก่อตั้ง Kernig ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ LVMH กล่าวว่า metaverse จะเป็นโอกาสในการดิสรัป บริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ โดย Pinault ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ NFT ในการรับรองความถูกต้องของสินค้ากายภาพที่สามารถจับต้องได้ รวมไปถึงบทบาทที่เป็นไปได้ของ smart contract ในการช่วยติดตามยอดขาย ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันสำหรับวงการอุตสาหกรรม

Kernig ผู้เป็นเจ้าของ Gucci เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก โดยมีทีมงานที่ทุ่มเทที่จะทำงานเกี่ยวกับประสบการณ์เสมือนจริง

Triefus ของ Gucci กล่าวในการสัมภาษณ์ของ McKinsey ว่า

“เมื่อพูดถึง NFT เรายังต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจสิ่งที่พวกเขาเป็น ตัวแทนในการนำเสนอในแง่ของการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า หรือการสร้างมูลค่าเพิ่ม” 

“แต่คุณคงเคยเห็นแบรนด์จำนวนมากในภาคธุรกิจนี้บอกว่า พวกเขาเชื่อว่า NFT จะมีความเกี่ยวข้องกับวงการอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน แต่เรายังไม่แน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์นักว่าความเกี่ยวข้องนั้นคืออะไร แต่เรากำลังจะบุกเบิกด้วยการทดลอง เพื่อเรียนรู้และเข้าใจอย่างได้ถ่องแท้”

สำหรับ Gucci โลก metaverse ไม่ใช่แค่โอกาสทางการตลาดที่ดีในระยะสั้น แต่เขายังกล่าวว่า ในอนาคต เขาคาดหวังว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างมากในการเติบโตของรายได้