ข่าว Bitcoin

ทองคำ, บิทคอยน์ หรือ DeFi? นักลงทุนสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างไร?

Rbc Bitcoin2603 Medium.jpg

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐได้พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ปี 1982 บิทคอยน์ (BTC) ได้ถูกจับตามองในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้ออีกครั้ง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บิทคอยน์ (BTC) ได้ผ่านตลาดหมีมาถึง 20 ครั้งที่แตกต่างกัน และในที่สุดมันก็เริ่มที่จะพิสูจน์ตัวเอง?

บิทคอยน์ (BTC) ได้ถูกสร้างขึ้นภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 และถูกวางแผนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากนโยบายการเงินที่หละหลวม ผู้สร้างสกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง Satoshi Nakamoto กล่าวเมื่อปลายปี 2008 ว่า อุปทานของสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นตามจำนวนที่วางแผนไว้ ซึ่งไม่ส่งผลให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ”

สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งมีอุปทานหมุนเวียนอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งคาดว่าจะขุดได้ครบในปี 2140 เมื่อถึงตอนนั้น อัตราเงินเฟ้อของ BTC จะลดลงเหลือศูนย์ ในทางตรงกันข้าม สกุลเงินปกติ หรือ fiat currency มีอุปทานที่ไม่จำกัด และสามารถพิมพ์ขึ้นมาได้ตลอด เพื่อปรับนโยบายการเงิน

นโยบายการเงินแบบขยายตัว เช่น นโยบายที่ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีเป้าหมายเพื่อขยายปริมาณเงินโดยการลดอัตราดอกเบี้ย และเห็นว่าธนาคารกลางมีส่วนร่วมในการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

นโยบายการเงินแบบขยายตัวนี้เชื่อกันมานานแล้วว่าจะนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งหมายถึงการลดค่าเงิน ท่ามกลางต้นทุนสินค้าและบริการที่สูงขึ้น 

ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนได้แตะระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีเลยทีเดียว

Screenshot 2021 12 12 at 13.36.31 1024x588.png

นอกจากนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กรมแรงงานได้เปิดเผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ (CPI) ของสหรัฐเดือนพฤศจิกายน โดยตัวเลขออกมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษที่ 6.8% สิ่งนี้ทำให้นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญจับตามองบิทคอยน์ (BTC) ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ

ตลาดเอเชียและยุโรปร่วงลงในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว และรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะใช้มาตรการใหม่ เพื่อควบคุมแรงกดดันที่เกิดขึ้น สาเหตุหลักของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการพิมพ์เงินโดยรัฐบาลทั่วโลก ซึ่งกำลังจะแย่ลงไปอีก เนื่องจากการระบาดใหญ่ที่ลุกลาม

Screenshot 2021 12 12 at 13.37.01.png

ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดระลอกแรก ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมและตลาดคริปโตได้ปรับตัวลดลงในช่วงแรก แต่ราคาบิทคอยน์ (BTC) และเหรียญ altcoins ก็ปรับตัวขึ้นมาในภายหลัง และเติบโตแบบทวีคูณ ทำให้บิทคอยน์ได้รับการจับตามองในฐานะทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อในหมู่สถาบันและนักลงทุนรายย่อย อันที่จริงแล้ว การระบาดครั้งใหญ่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้นักลงทุนสถาบันเร่ิมยอมรับบิทคอยน์มากขึ้นเมื่อต้นปีนี้

นอกจากนี้โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron ที่กำลังแพร่ระบาด เริ่มก่อให้เกิดความกลัวในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม และผู้เชี่ยวชาญด้านคาดการณ์อีกไตรมาสหนึ่งสำหรับตลาดการเงิน

บิทคอยน์จะเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง?

คริปโตเคอเรนซี่ขึ้นชื่อในเรื่องความผันผวนอย่างมาก โดยราคาอาจร่วงลงถึง 50% ในช่วงเวลาสั้น ๆ ความผันผวนที่สูงนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายว่า BTC และคริปโตอื่น ๆ สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้หรือไม่

นักกลยุทธ์จาก JPMorgan ยักษ์ใหญ่ด้านการธนาคารใน Wall Street ได้แนะนำว่า การจัดสรรพอร์ต 1% ในบิทคอยน์ สามารถใช้เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของสินทรัพย์ประเภทเดิมได้ นอกจากนี้นักลงทุนมหาเศรษฐีอย่าง Carl Icahn ได้ใช้ BTC เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม Adrian Kolody ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Domination Finance กล่าวว่า นอกจากบิทคอยน์แล้ว ในพื้นที่คริปโตเคอร์เรนซี ยังมีวิธีอื่นในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อีก

นาย Kolody ชี้ไปที่ภาคการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เขาแนะนำว่าการใช้ stablecoins — ซึ่งเป็นคริปโตที่มีกลไกการควบคุมราคา และ decentralized applications (DApps) นักลงทุนสามารถทำผลตอบแทน “แซงหน้าเงินเฟ้อ” พวกเขาเพียงแค่ต้องหาวิธีที่จะได้รับดอกเบี้ยจากเหรียญ stablecoin ซึ่งจะสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปี

BTC ให้ผลตอบแทนเหนือกว่าทองคำอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากได้เพิ่มขึ้นมากถึง 94% นับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม เมื่อเทียบกับทองคำ ที่ลดลงมากกว่า 8% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าจนถึงตอนนี้นักลงทุนยังล้มเหลวใช้โลหะมีค่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามในระยะยาว เป็นที่น่าสนใจว่าบิทคอยน์จะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้จริงหรือไม่?

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีมูลค่าการซื้อขายคริปโตในประเทศไทย (15/04/24)