ผู้พัฒนา Bitcoin ยุคแรกเริ่มกำลังเศร้า เพราะขายมันเร็วเกินไป
ชายผู้พัฒนา Bitcoin ในช่วงต้นเกือบกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านไปแล้ว หากเขาไม่ขาย 55,000 bitcoins ที่ขุดได้ในปี 2009-2010 ไปเสียก่อน ซึ่งนั่นทำให้เขานั้นพลาดเงินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ชายผู้พัฒนา Bitcoin ในช่วงต้นเกือบกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านไปแล้ว หากเขาไม่ขาย 55,000 bitcoins ที่ขุดได้ในปี 2009-2010 ไปเสียก่อน ซึ่งนั่นทำให้เขานั้นพลาดเงินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
"ตอนนี้ฉันจะเป็นมหาเศรษฐีถ้าฉันไม่ได้ขาย 55,000 bitcoins ที่ฉันขุดได้จากแล็ปท็อปในปี 2009-2010 เร็วเกินไป"
Martti Malmi หนึ่งในผู้พัฒนา Bitcoin รายแรก ๆ ที่รู้จักกันในชื่อ Sirius ได้อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับการถือครอง Crypto ครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2009
ตามที่ Twitter ของอดีตผู้พัฒนา Bitcoin (BTC) รายนี้ระบุเอาไว้ว่าเขานั้นขุด Bitcoin ได้ประมาณ 55,000 เหรียญระหว่างปี 2009 ถึง 2010 เมื่อราคาของมันเกือบเป็นศูนย์
Malmi กล่าวต่อว่าเส้นทางของเขาจบลงด้วยการเทขาย 5,050 BTC ณ ขณะที่มันราคาเพียง 5 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม 2009 และสูญเสียกว่า 30,000 BTC ผ่านหนึ่งในการแลกเปลี่ยน Bitcoin ตัวแรกที่เขาเป็นผู้ดำเนินการเมื่อมันยัง “ไม่มีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ชัดเจน”
“ฉันวางแผนที่จะ HODL ส่วนที่เหลือของ BTC ของฉัน แต่ต้องขายให้ได้มากที่สุดในอัตราที่ไม่ดี (ประมาณ $5) ในปี 2012 เมื่อการหางานใหม่ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้” Malmi กล่าว “ตั้งแต่นั้นมาฉันก็เก็บเงินออมเป็น BTC ไว้จำนวนมาก แม้จะไม่มากเท่าเดิม แต่ก็ยังคงได้รับผลตอบแทนที่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
I'd be a *billionaire* now if I hadn't sold the 55,000 bitcoins I mined on my laptop in 2009-2010 way too early (mostly before 2012). That is regretful, but then again, with the early bitcoiners we set in motion something greater than personal gain.
— Martti Malmi (@marttimalmi) December 18, 2020
“ตอนนี้ฉันจะเป็น *มหาเศรษฐี * ถ้าฉันไม่ได้ขาย 55,000 bitcoins ที่ฉันขุดบนแล็ปท็อปในปี 2009-2010 เร็วเกินไป (ส่วนใหญ่ก่อนปี 2012) นั่นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เหล่าผู้ใช้ Bitcoin ในยุคแรก ๆ ได้สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าผลประโยชน์ส่วนตัว”
อย่างไรก็ตามการลงทุนที่สำคัญที่สุดของนักพัฒนา Bitcoin รายนี้นั่นก็คือการที่เขาขาย 10,000 BTC ในปี 2011 เพื่อซื้ออพาร์ตเมนต์ในเฮลซิงกิ “น่าจะเป็นห้องสตูดิโอที่แพงที่สุดในโลกตอนนี้” เขากล่าวในทวิตเตอร์
ด้วยการเพิ่มขึ้นล่าสุดของ Bitcoin เป็น 24,000 ดอลลาร์การถือครองเดิม 55,000 BTC ของ Malmi จะมีมูลค่ามากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้อดีตผู้พัฒนากล่าวว่าเขา“ ไม่เคยเสียใจอย่างร้ายแรงเลย”
“สิ่งนี้ไม่ได้หยาบกระด้างอย่างที่คิด” Malmi กล่าว “มันไม่เหมือนกับที่ฉันเคยมีเงิน 1 พันดอลลาร์ และเสียไปในชั่วข้ามคืน นอกจากความสำเร็จของ Bitcoin แล้วฉันก็ค่อนข้างมีความสุขที่ได้อพาร์ทเมนต์ของตัวเองตอนอายุ 22”
เขาเพิ่ม
“บางทีอาจเป็นเพราะวัฒนธรรมฟินแลนด์ในด้านความคิดในอุดมคติ และการขาดประสบการณ์ชีวิต ฉันนั้นไม่เคยคิดมากเรื่องการหาเงิน มันบังเอิญเป็นผลพลอยได้จากการที่ Satoshi ขอให้ฉันทำให้โหนดของฉันทำงานต่อไปเพื่อให้คนอื่นเชื่อมต่อได้”
Malmi ไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่มีความสามารถในแวดวง Crypto รายสำคัญที่เทขายสินทรัพย์ที่พวกเขาถือครองไปแบบไม่จำเป็น โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา David Schwartz ซึ่งเป็น CTO ของ Ripple เปิดเผยว่าเขาขายอีเธอร์ (ETH) กว่า 40,000 เหรียญในราคาเหรียญละ 1 ตอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดการความเสี่ยงที่เขาทำร่วมกับคู่สมรสของเขาในปี 2021 ซึ่งโทเค็นเหล่านั้นจะมีมูลค่ามากกว่า 26 ล้านดอลลาร์หลังจากที่ราคาทะลุ 600 ดอลลาร์
