10 อันดับประเทศที่เป็นสวรรค์ด้านภาษีสำหรับนักเทรดคริปโตในปี 2022

ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกเก็บภาษีจากกำไรซื้อขายหรือภาษีเงินได้จากคริปโต แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่คุณจะต้องจ่ายภาษีคริปโตน้อยลงได้ วันนี้คริปโตสยามจะพาไปดูกันว่ามีประเทศใดปลอดภาษีคริปโตในปี 2022 บ้าง

จุดยืนและมุมมองของแต่ละประเทศที่มีต่อคริปโตนั้นแตกต่างกันออกไป ทำให้การเก็บภาษีแตกต่างกันออกไป บางประเทศมีการเก็บภาษีจากกำไรการซื้อขาย (Capital Gains Tax) บางประเทศมีการเก็บภาษีเงินได้ (Income Tax) ในขณะที่บางประเทศมีการเก็บทั้งสองอย่างเลยทีเดียว หากคุณเป็นนักลงทุนคริปโตที่ต้องการย้ายไปต่างประเทศ เราขอแนะนำประเทศที่เป็นสวรรค์ด้านภาษีคริปโตต่อไปนี้

10 ประเทศที่ปลอดภาษีด้านคริปโต

เยอรมนี

การซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้ปลอดภาษีในเยอรมนีอย่างสิ้นเชิง เยอรมนีมองว่าบิทคอยน์ (BTC) และสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่สินทรัพย์ทุน เรื่องนี้มีความสำคัญเพราะหากคุณถือครองเหรียญของคุณนานกว่าหนึ่งปี คุณจะสามารถขาย แลกเปลี่ยน หรือใช้จ่ายในภายหลังโดยไม่ต้องจ่ายภาษี

ฉะนั้นการถือครองคริปโตน้อยกว่าหนึ่งปีจะถูกเก็บภาษี เว้นแต่กำไรจะน้อยกว่า 600 ยูโร

อีกประการหนึ่งคือกฎระเบียบเกี่ยวกับ staking หากคุณ stake เหรียญเอาไว้ รายได้ตรงนี้จะต้องเสียภาษีไม่ว่าคุณจะถือไว้นานแค่ไหน ยกเว้นว่าคุณจะ stake เหรียญไว้นานกว่า 10 ปี คุณถึงจะไม่ต้องจ่ายภาษี

หากเหล่า HODL กำลังจะจัดกระเป๋าไปเบอร์ลิน อย่าลืมว่าเยอรมนียังคงเก็บภาษีเงินได้สำหรับคริปโต ซึ่งรวมถึง

• การรับเงินเป็นสกุลเงินดิจิตอล
• การขุดคริปโต
• การ stake เหรียญ
• การขาย แลกเปลี่ยน หรือการใช้จ่ายด้วยคริปโตที่ถือครองไว้น้อยกว่าหนึ่งปี และมีกำไรมากกว่า 600 ยูโร
• ขายคริปโตที่ stake ไว้ภายใน 10 ปี

นอกจากนี้ กฎหมายภาษีคริปโตฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2021 ทั่วทั้งสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงเยอรมนีด้วย กฎหมายฉบับนี้ได้ระงับการซื้อขายอนุพันธ์คริปโตทั้งหมด ดังนั้น หากคุณซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สหภาพยุโรปก็ไม่ใช่ที่ที่ดีที่สุด

เบลารุส

ไปดูทางฝั่งประเทศยุโรปตะวันออกกันบ้าง เบลารุสเป็นอีกประเทศที่ปลอดภาษีคริปโต

นับตั้งแต่ปี 2018 เบลารุสใช้แนวทางเกี่ยวกับคริปโตที่ไม่เหมือนใคร ประเทศในยุโรปตะวันออกแห่งนี้ได้รับรองกิจกรรมที่เกี่ยวกับคริปโต และยกเว้นภาษีคริปโตสำหรับบุคคลและธุรกิจทั้งหมด จนถึงปี 2023

ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมคริปโตทั้งหมด รวมถึงกิจกรรมการขุดและการซื้อขายรายวันจะถูกมองว่าเป็นการลงทุนส่วนบุคคล ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีกำไรจากการลงทุน กฎหมายนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของเบลารุส และจะมีการทบทวนกฎหมายอีกครั้งในปี 2023 ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าหลังจากปี 2023 จะเป็นอย่างไร

เอลซัลวาดอร์

เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศให้บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย

ประเทศมองว่าการทำเช่นนี้จะดึงดูดการลงทุนในระบบเศรษฐกิจของพวกเขามากขึ้น เพื่อส่งเสริมสิ่งนี้ ประเทศยังได้ยกเว้นนักลงทุนต่างชาติจากการเสียภาษีจากกำไรหรือรายได้ของบิทคอยน์ด้วย

เนื่องจาก BTC เป็นสกุลเงินที่ได้รับการยอมรับในประเทศ ธุรกิจต้องยอมรับการชำระเงินเป็นบิทคอยน์ ดังนั้นในเอลซัลวาดอร์ คุณสามารถชำระค่าสินค้าและบริการมากมายเป็น BTC ที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่นในโลก

โปรตุเกส

โปรตุเกสเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลก หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีคริปโต ตั้งแต่ปี 2018 รายได้ทั้งหมดจากการขาย คริปโตนั้นไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนี้การซื้อขายคริปโตยังไม่ถือเป็นรายได้จากการลงทุน ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียภาษีเช่นกัน

หากคุณไม่ใช่ธุรกิจ สกุลเงินดิจิทัลของคุณยังได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ในโปรตุเกส ดังนั้นสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ โปรตุเกสจัดว่าเป็นประเทศที่ปลอดภาษีด้านคริปโต

สิงคโปร์

มีเหตุผลที่แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลมากมาย เช่น KuCoin และ Phhemex มีที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ เนื่องจากประเทศแห่งนี้เป็นที่หลบภัยของภาษีคริปโตสำหรับทั้งบุคคลและธุรกิจ

เนื่องจากสิงคโปร์ไม่มีภาษีจากกำไรการซื้อขาย (Capital Gains) นักลงทุนรายย่อยและธุรกิจจึงไม่ต้องรับผิดต่อภาษีตรงนี้

นอกจากนี้ เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้จากมุมมองด้านภาษี เมื่อคุณใช้จ่ายคริปโตในสินค้าและบริการ สกุลเงินดิจิทัลจึงถูกมองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้า ไม่ใช่การชำระเงิน ดังนั้นในขณะที่สินค้าหรือบริการอาจมีภาษีสินค้าและบริการ (GST) เหรียญหรือโทเค็นการชำระเงินจะไม่มีภาษี

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาษีทั้งหมดได้ หากคุณทำธุรกิจและยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโต คุณจะต้องจ่ายภาษีเงินได้ ในทำนองเดียวกัน หากการให้บริการหลักของบริษัทเกี่ยวข้องกับการซื้อขายคริปโต บริษัทจะยังคงต้องเสียภาษีเงินได้เช่นกัน

มาเลเซีย

มาเลเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ปลอดภาษีคริปโต

เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ทุน หรือสกุลเงินตามกฎหมายอย่างเป็นทางการของมาเลเซีย ธุรกรรมคริปโตจึงปลอดภาษีสำหรับนักลงทุนรายย่อย

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเกี่ยวกับรายได้ภายในประเทศของมาเลเซียกล่าวว่า การทำธุรกรรม crypto นั้นได้รับการยกเว้นภาษีก็ต่อเมื่อเป็นธุรกรรมที่ไม่ได้ทำเป็นปกติหรือซ้ำซาก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ซื้อขายรายวัน คุณจะยังคงจ่ายภาษีคริปโต

ในทำนองเดียวกันสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโต กำไรที่ได้จะต้องเสียภาษีเงินได้ ไม่ว่ากำไรนั้นจะอยู่ในสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินปกติก็ตาม

มอลตา

มอลตาเป็นที่รู้จักในนามเกาะบล็อคเชน และยังเป็นที่หลบภัยของภาษีคริปโต ประเทศได้ยอมรับว่าบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ เป็น ‘หน่วยวัดมูลค่า  สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หรือที่เก็บมูลค่า’ อีกด้วย

สิ่งนี้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายภาษีกำไรจากการซื้อขายในการลงทุน ซึ่งถือเป็นข่าวที่สำหรับผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัล

การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้นคล้ายกับการซื้อขายหุ้น ดังนั้นพวกเขาอาจต้องเสียอัตราภาษีเงินได้ของธุรกิจ 35%! อย่างไรก็ตาม มีตัวเลือกการจัดโครงสร้างภายในระบบภาษีของมอลตาที่อนุญาตให้คุณลดอัตราภาษีนี้ให้อยู่ระหว่าง 0% ถึง 5% ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับรายได้ที่คุณได้รับ และถิ่นที่อยู่อาศัยของคุณ

หมู่เกาะเคย์เเมน

ไม่น่าแปลกใจเลยที่หมู่เกาะเคย์แมนอยู่ในลิสต์นี้ เป็นที่เลื่องลือกันมานานแล้วว่าหมู่เกาะเคย์แมนเป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษีสำหรับธุรกิจและนักลงทุนที่อยู่นอกตลาดคริปโต และแน่นอนว่าคริปโตก็ไม่ต้องเสียภาษีด้วยเช่นกัน

สำหรับทั้งธุรกิจคริปโตและนักลงทุนรายย่อย หมู่เกาะเคย์แมนเป็นที่หลบภัยของภาษีคริปโต หน่วยงานการเงินของหมู่เกาะเคย์แมนไม่ได้กำหนดภาษีนิติบุคคลสำหรับธุรกิจ และไม่มีภาษีเงินได้หรือภาษีกำไรการซื้อขายสำหรับผู้ที่อาศัยในประเทศ สวรรค์แห่งแคริบเบียนแห่งนี้สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ใบอนุญาตทำงาน และภาษีมูลค่าเพิ่มแทน

เปอร์โตริโก้

สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับมหาเศรษฐีในซิลิคอนแวลลีย์ที่มุ่งหน้าไปทางใต้ เพื่อเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่หรูหราในเปอร์โตริโก และกฎหมายภาษีที่หละหลวม

แม้ว่าเปอร์โตริโกจะเป็นดินแดนในเครือของสหรัฐอเมริกา แต่ก็ถือว่าเป็นประเทศที่มีการเก็บภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลาง ดังนั้นประเทศจึงกำหนดกฎหมายภาษีของตนเอง

เมื่อพูดถึงภาษีคริปโต ผู้ที่อาศัยอยู่ในเปอร์โตริโกจ่ายภาษีเงินได้ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับอัตราภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ข่าวที่ดียิ่งขึ้นไปอีก สินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้มาในขณะที่คุณอาศัยอยู่ในเปอร์โตริโกได้รับการยกเว้นภาษีจากกำไรซื้อขาย (Capital Gains) โดยสิ้นเชิง

สิ่งนี้หมายความว่า เมื่อคุณซื้อคริปโตก่อนที่จะย้ายไปอยู่เปอร์โตริโก คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของประเทศนั้น อย่างไรก็ตาม หากคุณถือครองคริปโต หลังจากที่ตั้งถิ่นฐานในเปอร์โตริโกแล้ว เหรียญของคุณจะได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขายโดยสิ้นเชิง

สวิตเซอร์แลนด์

ประเทศที่ปลอดภาษีคริปโตอันดับต้น ๆ ของโลกคือสวิตเซอร์แลนด์  ซึ่งประเทศนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกในด้านการเก็บภาษีมาอย่างยาวนาน ด้วยนโยบายที่ทันสมัย ทำให้ประเทศนี้มีชื่อเล่นว่า Crypto Valley

นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายภาษีสำหรับสกุลเงินดิจิทัล  แต่แค่หมายความว่ากฎหมายภาษีคริปโตในสวิตเซอร์แลนด์นั้นแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ในโลกอย่างมาก

ข่าวร้ายคือ คุณจะต้องจ่ายภาษีเงินได้สำหรับการขุดคริปโต เช่นเดียวกัน ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพที่ซื้อขายรายวัน คุณจะต้องเสียภาษีความมั่งคั่ง (Wealth Tax) ซึ่งเรียกเก็บจากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิทั้งหมดของคุณในแต่ละปี อัตราภาษีความมั่งคั่งขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่

ข่าวดีก็คือ สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ไม่ได้ซื้อขายในระดับมืออาชีพ กำไรจากคริปโตจะได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขาย ดังนั้นการขายและซื้อขายคริปโตจึงปลอดภาษีสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ