ความเสี่ยงของตลาด Crypto คล้ายกับตลาดน้ำมันและเทคโนโลยี

หลายต่อหลายคนได้ก้าวเข้าสู่โลกของ Cryptocurrency เพื่อมองหาหนทางในการรักษามูลค่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ในมือไม่ให้เสื่อมถอยลงไป โดยมองว่าตลาดคริปโตจะสามารถป้องกันความเสี่ยงจากตลาดแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี ภาพที่เราต่อหลายคนวาดเอาไว้ อาจจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น เพราะผู้เป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยแห่ง Coinbase ศูนย์กลางซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแถวหน้าของโลก ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าความเสี่ยงของตลาด Crypto มีความใกล้เคียงกับสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทเสียด้วยซ้ำ!

ความเสี่ยงของตลาด Crypto กำลังสูงขึ้นมาก

การสังเกตเห็น “ความเสี่ยง” ที่มากเกินคำโฆษณาครั้งนี้ เกิดขึ้นผ่านสายตาของ Cesare Fracassi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Coinbase โดยเขานั้นเล็งเห็นว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างราคาหุ้นและราคาสินทรัพย์ Crypto ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก” นับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปี 2020

ตามการวิเคราะห์จากหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Coinbase ระบุว่าแม้จะมีการโน้มน้าวให้หันมาถือครอง Crypto เพื่อป้องกันกลไกของตลาดแบบดั้งเดิม แต่ทว่าด้วยสภาวะการณ์ในปัจจุบันทำให้เรารู้แจ้งว่าสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยงที่มากกว่านั้น โดยมันได้คล้ายคลึงกันกับสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ก๊าซ หุ้นเทคโนโลยี และหุ้นเภสัชกรรม

“ในช่วงทศวรรษแรกของการดำรงอยู่ ผลตอบแทนของ Bitcoin โดยเฉลี่ยไม่สัมพันธ์กับประสิทธิภาพของตลาดหุ้น แต่ทว่าความสัมพันธ์ของสินทรัพย์ทั้งสองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของ COVID-19”

นักเศรษฐศาสตร์หัวกะทิรายนี้ได้หยิบยกรายงานข้อมูลเชิงลึกรายเดือนของสถาบัน Coinbase ในเดือนพฤษภาคม ขึ้นมาเป็นข้อมูลสนับสนุนมุมมองของเขา โดยรายงานฉบับดังกล่าวค้นพบว่า Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) มีความผันผวนคล้ายกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน โดยผันผวนระหว่าง 4% ถึง 5% ในแต่ละวัน

หรือ Bitcoin กำลังถึงทางตัน?

เราทั้งหลายมักจะเรียกขานสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ตลอดกาลของตลาดอย่าง Bitcoin ว่า “ทองคำดิจิทัล” แต่ทว่าด้วยผลที่ออกมาบนกระดานราคาในปัจจุบันแสดงให้เห็นแล้วว่า Bitcoin นั้นยังห่างชั้นในการนำมาเทียบกับโลหะมีค่าในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น ทองคำ และเงิน อยู่มากเลยทีเดียว โดยทั้งคู่มีความผันผวนรายวันประมาณเกือบ 1% และ 2% ตามลำดับ แต่ทว่า BTC กับผันผวนอยู่ถึง 4% ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

ทั้งนี้ หากในเปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น หุ้นที่เหมาะสมที่สุดกับสิ่งที่ Bitcoin เป็น ณ ขณะนี้ ในแง่ของความผันผวน และมูลค่าตลาดคือหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla นั่นเอง

ในทางกลับกัน Ether นั้นเทียบได้กับหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Lucid และบริษัทยา Moderna โดยพิจารณาจากมูลค่าตลาด และความผันผวน

“ตลาดแดง” อาจไม่ได้นำมาซึ่งหายนะเสมอไป

แม้ความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นของ Bitcoin และ Ether จะฟังดูน่ากังวล แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว การที่มูลค่าของมันถูกขับเคลื่อนไปตามกลไกของตลาดกำลังบ่งบอกถึง “ความสำเร็จ” ที่เพิ่มมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับของผู้คน

“สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าตลาดคาดว่าสินทรัพย์คริปโตจะมีความเกี่ยวพันกับระบบการเงินที่เหลือมากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยเหตุนี้จึงต้องเผชิญกับแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาคแบบเดียวกันที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก”

ด้วยสาเหตุนี้เอง จึงทำให้ Fracassi มองว่าการที่ตลาด Crypto ถูกชักนำโดยปัจจัยมหภาคเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้าน Crypto รายนี้ยังกล่าวเสริมอีกว่าประมาณสองในสามของราคา Crypto ที่ลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นผลมาจากปัจจัยมหภาค เช่น อัตราเงินเฟ้อ และภาวะถดถอยของเศรษฐกิจทั่วทั้งโลกที่ใกล้เข้ามา ส่วนอีกหนึ่งในสามของการลดมูลค่าลงของ Crypto ที่เหลือ เป็นเพียงปัจจัยเฉพาะในตลาด Cryptocurrencies เท่านั้น