ข่าว Bitcoin

บิทคอยน์ที่พุ่งทะลุ $55,000 ดันมูลค่าตลาดสู่ 1 ล้านล้าน แซงหน้า Facebook และ Tesla ปัจจัยอะไรที่อยู่เบื้องหลัง?

Bitcoin Soar 55000.jpg

ราคาบิทคอยน์ได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 55,555 ดอลลาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดกลับมาที่ 1 ล้านล้านดอลลาห์อีกครั้ง

ราคาบิทคอยน์ได้พุ่งขึ้นแตะระดับ 55,555 ดอลลาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 52,700 มาได้ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม การเพิ่มขึ้นครั้งนี้ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) เพิ่มขึ้นเหนือ 1 ล้านล้านดอลลาห์อีกครั้ง

บิทคอยน์ผ่านแนวต้านสำคัญมาได้

ในที่สุดราคาบิทคอยน์ก็สามารถผ่านระดับแนวต้านสำคัญที่ 52,700 ดอลลาห์ไปได้เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยราคาได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและทำจุดสูงสุดที่ 55,555 ดอลลาห์ ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดกลับไปแตะ 1 ล้านล้านดอลลาห์อีกครั้ง

ในขณะที่รายงาน ราคาได้ปรับตัวลงมาเล็กน้อย โดย BTC ซื้อขาย 54,506 โดยเพิ่มขึ้น 5.76 เปอร์เซ็นต์ในวันนี้

Btc Price Chart.png
แหล่งที่มา: CoinGecko

มูลค่าตลาดของบิทคอยน์แตะ 1 ล้านล้านดอลลาห์อีกครั้ง

การเพิ่มขึ้นของราคาที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) ของบิทคอยน์กลับมาที่ 1 ล้านล้านดอลลาห์อีกครั้ง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 8 ของโลก แซงหน้าบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดที่ 9.21 แสนล้านดอลลาห์ และบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดที่ 7.84 แสนล้านดอลลาห์

อย่างไรก็ตามสินทรัพย์อันดับหนึ่งของโลกยังคงเป็นทองคำที่ครองแชมป์มาอย่างยาวนาน โดยมีมูลค่ามากถึง 11.205 ล้านล้านดอลลาห์เลยทีเดียว ซึ่งหมายความว่าบิตคอยน์ยังมีตลาดที่เล็กกว่าทองคำกว่าสิบเท่า อย่างไรก็ตามความนิยมที่เพิ่มขึ้นในบิตคอยน์ อาจทำให้ทองคำเสียส่วนแบ่งทางตลาดไปได้ในอนาคต ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าบิทคอยน์จะเอาชนะได้หรือไม่ และจะใช้เวลาอีกกี่ปี

Screenshot 2021 10 07 at 09.11.17 1024x619.png
แหล่งที่มา: companiesmarketcap.com

เหรียญอื่นๆ ในตลาดปรับตัวขึ้นตามบิทคอยน์

เหรียญอื่น ๆ ในตลาดคริปโตก็ซื้อขายอย่างคึกคักไปตามๆ กัน จากการเพิ่มขึ้นที่นำโดยบิตคอยน์ (BTC) ส่วนสกุลเงินดิจิทัลอันดับสองของโลกอย่าง Ethereum (ETH) สามารถผ่านระดับ 3,600 ดอลลาห์ไปได้เมื่อคืนนี้ และกำลังพักฐานในขณะนี้ใกล้ 3,500 ดอลลาห์ แนวต้านสำคัญจะอยู่ที่ 3,630 ดอลลาห์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น

244344950 273101814819248 409612385444453590 N 1024x409.jpg
แหล่งที่มา: Coin360

นอกจากนี้ Altcoins หลายตัวได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง SHIB, AR, BTG, FTM, XLM, DYDX, BTCB, WBTC, XMR, KLAY และ CRO

สิ่งที่น่าสังเกตคือ เหรียญ SHIB พุ่งขึ้นมากกว่า 70% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และยังเพิ่มขึ้นถึง 367% ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมาอีกด้วย สำหรับผลตอบแทนในช่วง 30 วันที่ผ่านมา เหรียญ SHIB เพิ่มขึ้นถึง 445.1% ตามด้วยโทเค็นเกมส์สุดฮิตที่ 95.4% โดยเหรียญ AXS ได้ปรับตัวลงอย่างมาก หลังจากที่สามารถเพิ่มขึ้นไปเกือบถึง 141 ดอลลาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา

Screenshot 2021 10 07 at 09.33.39 1024x581.png

ปัจจัยอะไรที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นครั้งนี้

ตลาดกระทิงของ BTC ที่เพิ่มขึ้นกว่า 32% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก CoinGecko) อาจมาจากการเข้าซื้อของเจ้ามือรายใหญ่ หรือที่เราเรียกว่า วาฬ นั่นเอง ซึ่งอาจจะมาจากการคาดการณ์ว่ากองทุนบิทคอยน์ ETF จะได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (สำนักงาน ก.ล.ต.) ในเร็ว ๆ นี้

Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสของ Bloomberg กล่าวว่า มีโอกาส 75% ที่สำนักงาน ก.ล.ต. จะอนุมัติกองทุนบิทคอยน์ ETF ในเดือนนี้

https://twitter.com/EricBalchunas/status/1445846803149115397

นอกจากนี้ข่าวในแง่บวกอีกอันยังมาจากการที่ Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่าจะไม่มีการแบนคริปโตเหมือนประเทศจีนอย่างแน่นอน

นาย Gensler ยังกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือการคุ้มครองนักลงทุน และรัฐบาลจะรับผิดชอบ เพื่อให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ของสหรัฐฯ นั้นอยู่ภายใต้กฎระเบียบ กฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภค กฎระเบียบต่อต้านการฟอกเงิน และกฎหมายภาษีอีกด้วย

และสุดท้ายการเพิ่มขึ้นของราคาคาดว่าจะได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่บริษัทด้านการลงทุนของ George Soros สนับสนุนบิทคอยน์อีกด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ Dawn Fitzpatrick ซีอีโอของ Soros Fund Management ได้ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทได้มีการถือครองบางส่วน แม้จะไม่มากก็ตาม

ข่าวนี้ได้สร้างความฮือฮา เนื่องจาก George Soros เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในการเก็งกำไรด้านค่าเงินเป็นอย่างมาก โดยเขาเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังจากการโจมตีค่าเงินปอนด์ในปี พ.ศ. 2535 และการโจมตีค่าเงินบาทในช่วงปี 2540 อีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง