แบงก์ชาติอังกฤษแนะ ควรพิจารณากฎระเบียบ Crypto อย่างเข้มข้น
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแบงก์ชาติอังกฤษมีความกังวลเรื่องการออกกฎระเบียบ Crypto เพราะในปัจจุบันมันล้วนเต็มไปด้วยช่องโหว่ ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อโลกการเงินอย่างช้า ๆ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของแบงก์ชาติอังกฤษมีความกังวลเรื่องการออกกฎระเบียบ Crypto เพราะในปัจจุบันมันล้วนเต็มไปด้วยช่องโหว่ ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อโลกการเงินอย่างช้า ๆ
เหล่าคณะกรรมการด้านการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (Bank of England) มีความเห็นตรงกันว่ากฎระเบียบคริปโตในปัจจุบันมีช่องโหว่อยู่มาก ซึ่งการพิจารณากฎระเบียบ Crypto นั้นควรถูกกระทำอย่างรอบคอบ และระมัดระวังมากกว่าที่เป็นอยู่
กฎระเบียบ Crypto ควรถูกพิจารณาอย่างเข้มข้น
ในรายงานเสถียรภาพทางการเงินฉบับล่าสุดของแบงก์ชาติแดนผู้ดี ทางคณะกรรมการวางแผนทางการเงิน (Financial Planning Committee: FPC) ซึ่งเป็นหน่วยงานย่อยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษได้ออกมาแนะนำให้ภาครัฐผลักดันการ 'ปรับปรุง' กรอบการกำกับดูแลคริปโต
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ FPC ระบุว่า กรอบการกำกับดูแลคริปโตในปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วยช่องโหว่ที่ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยถึงแม้ช่องโหว่ที่เห็นได้ชัดในอุตสาหกรรมน้องใหม่จะยังไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศทางการเงินในวงกว้างในขณะนี้ แต่ทว่ามันจะส่งผลร้ายอย่างช้า ๆ ต่อโลกการเงินในอนาคตอย่างแน่นอน
โดยในรายงานดังกล่าวยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจับตาดูคริปโตเคอเรนซีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่องโหว่ที่รับรู้นั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่เหล่านักลงทุนในตลาดการเงินทั่วไปเคบยประสบพบเจอ
ตามที่ระบุไว้ในรายงาน FPC กล่าวถึงช่องโหว่เหล่านี้ไว้ว่า
"มีความคลาดเคลื่อนของสภาพคล่องที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของราคาแบบฉับพลันซึ่งก่อให้เกิดการเทขายแบบไฟลุก การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้ประโยชน์จากราคาที่ผันผวน ทั้งนี้ ปัจจุบันความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสิ่งที่ถูกเรียกว่า 'Stablecoins' ได้ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน่วยงานผู้ออก Stablecoins ที่ไม่มีหรือมีสินทรัพย์สำรองที่มีความเสี่ยง และมีความโปร่งใสน้อย"
Terra-LUNA ทำเอาไว้เจ็บแสบ
คำเตือนของแบงก์ชาติอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เหรียญ Terra-LUNA ล่มสลาย โดยมีราคาร่วงลงมากกว่า 99.9% ภายในหนึ่งสัปดาห์ ก็เป็นกรณีด้าน Stablecoins ที่เหมือนกับที่ทางแบงก์ชาติยกตัวอย่างมาแบบตรง ๆ ไม่มีผิดเพี้ยงเลยก็ว่าได้
ซึ่งผลร้ายของเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่เกิดขึ้นแต่กับเจ้าของ Terra แต่เพียงอย่างเดียว เพราะมันได้ฉุดเหล่านักลงทุนจำนวนมาก รวมถึงบริษัทใหญ่โตอย่าง Three Arrows Capital ผู้จัดกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งในระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัล พอร์ตแตกกันไปตาม ๆ กัน แบบยากที่จะรับมือ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ข้างต้นนอกเหนือจากจะได้สร้างความเจ็บแสบแผ่ไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมคริปโต ยังทำให้เหล่าผู้กำกับดูแลทั่วทุกมุมโลกมีความตื่นตัวมากขึ้นในการออกกฎระเบียบที่เข้มข้นขึ้นอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกไม่ปลื้มสินทรัพย์ประเภท Stablecoin อีกต่อไปแล้ว