Binance Korea กำลังจะปิดตัวลง
เหตุใดแดนโสมใต้ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านการเปิดรับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตอย่าง Blockchain กลับมีปริมาณการซื้อขายคริปโตที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนทำให้ Binance Korea ต้องล่าถอย และปิดตัวลงท่ามกลางสภาพคล่องที่หดตัว ภายหลังจากเปิดตัวไม่ถึงหนึ่งปี
เหตุใดแดนโสมใต้ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านการเปิดรับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตอย่าง Blockchain กลับมีปริมาณการซื้อขายคริปโตที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนทำให้ Binance Korea ต้องล่าถอย และปิดตัวลงท่ามกลางสภาพคล่องที่หดตัว ภายหลังจากเปิดตัวไม่ถึงหนึ่งปี
Binance ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ชื่อก้องโลก ได้ตัดสินใจปิดการดำเนินงาน Binance Korea เว็บเทรดของพวกเขาในเกาหลีใต้ หลังจากดำเนินงานมาได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น (เริ่มเปิดใช้งานเดือนเมษายน 2020) อ้างอิงตามประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (24 ธันวาคม) โดยในส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ ทาง Binance KR ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากสภาพคล่องที่ลดลง และปริมาณการซื้อขายที่ต่ำของคู่การซื้อขาย Binance KRW (BKRW)
*BKRW เป็น Stablecoin ที่ตรึงมูลค่าในอัตราส่วน 1:1กับวอนเกาหลีที่ใช้สำหรับการชำระเงินในรูปแบบ crypto-to-crypto บนแพลตฟอร์ม
ข่าวร้ายรับคริสมาสต์ของยักษ์ใหญ่ด้านการแลกเปลี่ยน
ตามรายละเอียดที่ระบุโดย Binance KR ไทม์ไลน์การปิดระบบจะเริ่มต้นด้วยการยุติการลงทะเบียนบัญชีใหม่ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม เป็นต้นไป และในส่วนของบริการการซื้อขายมีกำหนดการหยุดให้บริการในวันที่ 10 มกราคม 2021
โดยพวกเขาพร้อมที่จะทำการปิดตัวแบบ “Hard Shutdown” ทั้งบนแพลตฟอร์ม และการเพิกถอนคู่ผูกพันของ BKRW ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มกราคม และนั่นหมายความว่าลูกค้าของ Binance KR ทั้งหมด มีเวลาถึงวันที่ 29มกราคม เท่านั่น ในการเพิกถอนการถือครอง BKRW ของพวกเขา และรวมไปถึง BUSD Stablecoin หรือ Cryptocurrencies อื่น ๆ ที่รองรับด้วยเช่นเดียวกัน
กฎระเบียบที่เข้มงวดส่งผลร้ายกว่าที่คิด
การที่ Binance KR ออกมารายงานถึงสภาพคล่องที่ลดลงสำหรับการซื้อขายในคู่การซื้อขาย Stablecoin ที่ตรึงมูลค่ากับเงินวอนเกาหลีใต้นั้น สอดคล้องกับอาการของปัญหาขนาดใหญ่ภายในตลาด Crypto ของแดมโสม โดยหากย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม ปี 2019 มีรายงานว่า 97%ของตลาดหุ้นในประเทศตกอยู่ในอันตรายจากการล้มละลาย
นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่ากฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นได้บังคับให้เครื่องมือทางด้านบล็อกเชนติดตามรายชื่อโทเค็นในการแลกเปลี่ยนในต่างประเทศ ซึ่งทำให้ปัญหาปริมาณการซื้อขายในประเทศยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเข้าไปอีก แม้ในปี 2020 ทางการเกาหลีใต้ได้ออกกฎหมายควบคุมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแล้วก็ตาม แน่นั่นก็มาพร้อมกับข้อกำหนดให้มีการปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด
การดำเนินธุรกิจล้วนมาพร้อมความไม่แน่นอน
เกาหลีใต้ไม่ใช่ประเทศเดียวที่ยักษ์ใหญ่ด้านการแลกเปลี่ยนคริปโตในมอลตาอย่าง Binance พลาดท่าในการดำเนินธุรกิจ เพราะก่อนหน้านี้ตามการรายงานของ CryptoSiam Binance นั้นได้ทำการปิดตัว Binance Uganda ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แถมพวกเขายังพลาดท่าในการตีตลาดแดนอาทิตย์อุทัย และยังถูกขึ้นบัญชีดำในสหพันธรัฐรัสเซียอีกด้วย
