Avatar NFT จาก RTFKT และ Daz 3D ใกล้วางขายแล้ว

RTFKT Studios เปิดเผยว่าทางบริษัทได้ร่วมมือกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ Daz 3D เพื่อยกระดับเทคโนโลยีของพวกเขาให้สามารถนำไปใช้สร้างภาพตัวละคร 3 มิติ หรือ CloneX ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Avatar NFT ตัวใหม่ที่กำลังจะถูกวางขายในปลายเดือนนี้อย่างแน่นอน

โปรเจ็กต์ Clone X ที่กำลังเตรียมวางขายในอีกไม่กี่สัปดาห์ จะประกอบไปด้วยตัวละครกว่า 20,000 ตัวด้วยกัน โดย NFT 10,000 ตัวแรกจะเปิดให้ผู้ที่เคยได้เป็นเจ้าของผลงาน RTFKT มาแล้วทำการสั่งจองล่วงหน้าก่อนวันขายจริง 48 ชั่วโมง จากนั้นตัวละครอีกครึ่งหนึ่งจะถูกนำไปประมูลบนตลาดการประมูลของชาวดัตช์ในภายหลัง

เมื่อวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาทั้ง 2 บริษัทได้ตัดสินใจเผยโฉมตัวอย่างผลงานดังกล่าวสู่สายตายชาวนิวยอร์กบนไทม์แสควร์ในงาน NFT NYC เป็นครั้งแรก

ผลงานผู้สร้าง Avatar NFT

RTFKT Studios ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Chris Le, Benoit Pagotto และ Steven Vasilev เป็นกลุ่มศิลปินออกแบบแฟชั่นล้ำยุคที่มีความทะเยอทะยานจนพาตัวเองไปสู่ระดับแนวหน้าในเมตาเวิร์ส พวกเขาได้เริ่มธุรกิจขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ โดยทำงานร่วมกับบริษัทเกมและแบรนด์แฟชั่นบางแห่งมาเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งเปิดตัวสู่สาธารณะชนไปในช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน RTKFT ได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตรองเท้า Sneaker สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยเทคนิคการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Augmented Reality (AR), Non-Fungible Token (NFT), game engines และระบบ Blockchain authenticationเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรองเท้าผ้าใบเสมือนจริง และรองเท้าผ้าในชีวิตจริงให้ออกมาโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายเดือนมานี้ศิลปินดังกล่าวได้สร้างผลงานออกมามากมายหลายชิ้นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ Jeff Staples และ Janet Jackson รวมไปถึงเกม The Sandbox และ Decentraland ใน Metaverse

Daz Productions, Inc. บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ภาพ 3 มิติ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Daz3D ที่เชี่ยวชาญในการปั้นโมเดลมนุษย์ อุปกรณ์เสริมสำหรับตกแต่งโมเดล และพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับมือสมัครเล่น และ ตลาดสำหรับผู้บริโภค ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกใช้งานโดยศิลปิน และดีไซน์เนอร์มากกว่า 4 ล้านรายทั่วโลก โดย Ed camull ผู้ร่วมก่อตั้ง Pixar และอดีตประธานบริษัท Walt Disney Animation Studios เป็นผู้คิดค้นซอฟต์แวร์ชื่อดังตัวนี้

ผลงานล่าสุดของทางบริษัทคือการร่วมมือกับ RTKFT เพื่อสร้าง CloneX โดยการนำ PFP Utility Kit ของซอฟต์แวร์มาใช้เพิ่มความเป็นไปได้ที่อวตารเหล่านี้จะไปปรากฎในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น เกม, วิดีโอ, สื่อโซเชียลมีเดีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบน Metaverse

เจตนาที่แท้จริง

Chris Le ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้าฝ่าย Creative แห่ง RTFKT ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่งระบุว่า เขานั้นเกิดและเติบโตในรัฐยูทาห์ การได้ทำงานร่วมกับบริษัทที่ถือกำเนิดขึ้นในรัฐเดียวกันทำให้เขารู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ซึ่งมันถึงเวลาแล้วที่จะสานต่อโปรเจกต์สำคัญชิ้นนี้ต่อไป โดยตัวดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งทุกคนต้องการจะมีพื้นที่ที่พวกเขาสามารถใช้ NFT เหล่านั้นได้ และแน่นอนว่าโปรเจกต์ของเรานั้นพร้อมเสมอที่จะเปิดให้ทุกคนเปิดประสบการณ์ และนำตัวละครเหล่านี้ไปใช้อาณาจักร Metaverse ต่อไป

นอกจากนี้ Le ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงอนาคตของแบรนด์ว่า

"เราวางแผนไว้ว่าขั้นตอนแรกคือการได้เป็นแบรนด์ที่อยู่ใน Metaverse ทุกแพลตฟอร์ม และทุกคนนำผลงานของเราไปใช้อย่างกว้างขวางใน AR, VR และบนโลกแห่งความเป็นจริง เราแค่อยากจะเป็นปัจจุบันของทุกๆสิ่ง!"