ข่าว Bitcoin

จะเกิดอะไรขึ้นกับ Crypto หลังจากเจ้าของเสียชีวิต

Photo 1476370648495 3533f64427a2.jpg

ตายแล้วไปไหน อาจจะไม่สำคัญเท่าตายแล้วทรัพย์สินเราจะเป็นอย่างไร เพราะล่าสุดมีการวิจัยได้ค้นพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ถือครอง Crypto วิตกกังวลอย่างมากกับการวางแผนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลหากพวกเขาตายลงอย่างกะทันหัน

จากการสำรวจผู้เข้าร่วมการวิจัยทั้งหมด 1,150 คน โดยสถาบัน the Cremation Institute ระบุว่าผู้ครอบครอง Crypto ส่วนมากกังวลเกี่ยวกับการส่งต่อทรัพย์สินของเขาหลังจากที่พวกเขาตายและถึงแม้เขาเหล่านั้นจะกังวลเรื่องนี้มากเพียงใด แต่ก็ยังคงล้มเหลวในการทำพินัยกรรม การจัดการทรัพย์สินหรือไม่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับผู้รับผลประโยชน์ต่อจากพวกเขาได้

ความวิตกกังวลที่แผ่กระจายไปทั่ววงการ

ผลการศึกษาได้ถูกบันทึกว่าไม่มีผู้กรอกแบบสอบถามคนไหนกล่าวว่าพวกเขาไม่มีความกังวลต่อเรื่องนี้เลยแม้แต่คนเดียวและจำนวนกว่า 89% ของนักลงทุนยังลังเลที่จะเลือกว่าควรส่งต่อทรัพย์สิน Crypto เหล่านี้ให้กับครอบครัวหรือเพื่อนของพวกเขากันแน่หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไป

โดยการศึกษายังพบว่าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ช่วงอายุระหว่าง 18-40 ปี จะมีแนวโน้มในการไม่วางแผนใด ๆ ในอนาคตเลยสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อพวกเขาจากไป มีเพียงแค่ 65% ของเจเนอเรชั่น Millenial และ 41% ของเจเนอเรชั่น Zoomer ที่กล่าวว่าพวกเขาได้ทิ้งพินัยกรรมสำหรับสินทรัพย์ทางดิจิทัลไว้บุคคลที่พวกเขาต้องการให้แล้ว

ในขณะที่กลุ่มคนรุ่นเก่ามีปริมาณตัวเลขที่ต่างกันมาก เพราะกว่า 86% ของกลุ่ม Generation X และ 94% ของกลุ่ม Baby Boomers ระบุว่าพวกเขาได้วางแผนในการส่งต่อทรัพย์สิน Crypto ที่พวกเขาครอบครองอยู่ไว้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้จากการศึกษายังพบว่าผู้ครอบครอง Crypto มีแนวโน้มจะใช้พินัยกรรมสำหรับการส่งต่อมรดกน้อยกว่าของนักลงทุนที่ไม่ได้ถือครอง Crypto ถึง 4 เท่าที่ ซึ่งทางสถาบันได้กล่าวว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้ “ค่อนข้างน่ากลัว”

แล้วสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านั้นหายไปไหน

ตามที่สถาบัน the Cremation Institute ของนาย Adam Binstock ได้ดำเนินการทำการศึกษาไปแล้วหลังจากได้ยินเรื่องราวสยองขวัญของผู้คนที่กำลังจะตายไปพร้อมกับทรัพย์สินของพวกเขา

บริษัทประกันภัย Cryptocurrency อย่าง Coincover ประมาณการณ์ว่า Bitcoin (BTC) เกือบ 4 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า $37 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หมดประสิทธิภาพในการนำมาใช้หมุนเวียนได้หลังจากขาดการเข้าถึง

หนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังของสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมากที่ได้ถูกคาดคะเนไว้ว่าสูญหาย คือการตายของ Gerry Cotten ผู้คิดค้น QuadrigaCX ในขณะที่เขาเสียชีวิตลงในประเทศอินเดียปี 2018 โดยปราศจากการส่งต่อกุญแจไปสู่โทเค็นที่มีมูลค่ากว่า $145 โทเค็น ซึ่งมีหลายคนสงสัยว่าเขากุข่าวเรื่องการตายของเขาเอง อย่างไรก็ตามคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ในรัฐออนแทรีโอได้ออกมากล่าวว่าการแลกเปลี่ยนจริง ๆ แล้วเป็นแค่ Ponzi scheme (รูปแบบการลงทุนที่มีการจ่ายผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ ผลตอบแทนนั้นส่วนใหญ่มาจากเงินลงทุนของนักลงทุนรายที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ แทนที่จะมาจากผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง) ถูกสร้างโดย นาย Cotten

อีกตัวอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในปี 2017 เกี่ยวข้องกับผู้ชายคนหนึ่งที่สะสม Bitcoin จำนวนมากไว้บน Coinbase แต่กลับตายโดยปราศจากการทิ้งคำแนะนำเอาไว้ให้กับครอบครัวของเขาเพื่อใช้ในการเข้าถึงสินทรัพย์เหล่านั้นได้ ครอบครัวของเขาสามารถนำหลักฐานการตายของเขา และหลักฐานความสัมพันธ์มายื่นต่อแพลตฟอร์มเพื่อเข้าถึงกองทุนนั้นได้ หากตัว Bitcoin ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในการแลกเปลี่ยนภายในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ พวกเขาไม่ได้เป็นประชาชนของประเทศสหรัฐอเมริกา ขั้นตอนในการเข้าถึงสินทรัพย์ก็อาจซับซ้อนขึ้นมาอย่างง่ายดาย

โอกาสที่ใครบางคนมองเห็น

ความไม่พร้อมในการเตรียมตัวของผู้ครอบครอง Crypto เหล่านี้ในการต่อมรดกดิจิทัลเกิดจากการขาดการให้บริการอสังหาริมทรัพย์ทางด้านสินทรัพย์ Crypto และขาดกฏระเบียบในการกำกับดูแลของรัฐบาล

บริษัทบางแห่งได้เห็นช่องทางนี้ และทำการเปิดตัวบริการที่จะระบุปัญหาเหล่านี้ โดยมีชื่อว่า Inheriti เป็นบริการส่งต่อมรดกด้านทรัพย์สินดิจิทัลจากแพลตฟอร์ม Safe Haven ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงเบต้าและจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดลิสต์ '5 เหรียญ' ที่ค่า RSI เข้าใกล้พื้นที่ 'Overbought' ประจำสัปดาห์
ล่าสุด 'CoinLedger' ประกาศความร่วมมือกับ 'MetaMask
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงกลางเดือน มีนาคม ปี 2567
ล่าสุด ศาลมอนเตเนโกร ปฏิเสธคำร้องอุทธรณ์ของ ‘Do Kwon’ หลังถูกตัดสินส่งตัว