กฎหมาย และประกาศ

สหรัฐฯคุมเข้มมาตรการใหม่ป้องกันรัสเซียใช้คริปโต

Crypto Ban Resize Md.jpg

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปร่วมออกมาตรการใหม่ พร้อมติดตามสถานการณ์ด้านการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันรัสเซียใช้คริปโตหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร

แนวโน้มที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin อาจนำคริปโตมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากประเทศต่าง ๆ เริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น ส่งผลให้สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปต่างก็ออกมาแสดงความกังวลต่อการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้นำจากประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สาธารณรัฐฝรั่งเศส, สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี, สาธารณรัฐอิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป ลงความเห็นคุมเข้มมาตรการต่าง ๆ ขึ้นเป็น 2 เท่าพร้อมสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากประเทศรัสเซียจำนวนมาก และส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือย (Luxury goods) รวมไปถึงยังออกคำสั่งให้กระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯคอยติดตามความเคลื่อนไหวในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา หวังตัดขาดสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจการเงินอย่างเด็ดขาด และป้องกันรัสเซียใช้คริปโตเป็นเครื่องมือหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร พร้อมย้ำให้ประชาชนชาวอเมริกันปฏิบัติการกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

สหภาพยุโรป และ G7 ร่วมลงนามคว่ำบาตรรัสเซีย

รัฐบาลสหรัฐอเมริการ่วมมือกับสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศ G7 ออกมาตรการใหม่ดังกล่าวขึ้นมาเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย และยังถือเป็นการสร้างข้อจำกัดทางการเงินให้กับประเทศรัสเซียเพิ่มเติมอีกด้วย โดยในวันพุธที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) หรือ องค์กรฝ่ายบริหารแห่งสหภาพยุโรปเผยว่าประเทศสมาชิกได้ร่วมลงนามตกลงให้มีการปรับแก้กฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากทางองค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงการออกมาคว่ำบาตรรัสเซียได้ นอกจากนี้ ทางสหภาพยุโรปยังได้ให้ความสำคัญต่อความเป็นไปได้ที่ทางรัสเซียอาจใช้สินทรัพย์คริปโตแทนเงินสด

Biden2 1024x576.jpg

แม้ว่าประเทศสมาชิกหลายแห่งยังไม่ได้ออกมากล่าวว่าพวกเขาจะยินยอมที่จะออกมาจำกัดการผลิตน้ำมัน และแก๊ซจากรัสเซียเช่นเดียวกันกับที่ Joe Biden ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอมเริกาได้ออกมาแถลงการณ์บังคับใช้มาตรการดังกล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ทว่า Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเผยว่าในวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่จากองค์กรจะเริ่มออกมชี้แจงถึงมาตรการที่ใช้ในการต่อต้านรัสเซียให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแบนครั้งใหญ่ขึ้นในตลาดการลงทุนยุโรปทั่วทั้งอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซียอีกด้วยเช่นเดียวกัน

บริษัทคริปโตหลายแห่งถูกคุมเข้ม

ทางสำนักข่าว Bloomberg ได้ออกมารายงานเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐฯเตรียมจัดตั้งหน่วยงานพิเศษแห่งใหม่เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ยุติ และเข้ายึดสิทธิ์ในการถือครองคริปโตของมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย รวมไปถึงการเข้าตรวจสอบธนาคาร และบริษัทคริปโตที่ให้ความช่วยเหลือกับองค์กรที่มีรายชื่ออยู่ในลิสต์การคว่ำบาตร

นอกจากนี้ องค์กร Financial Conduct Authority (FCA) และหน่วยงาน The Office of Financial Sanctions Implementation (OFSI) ในสหราชอาณาจักร ก็ได้ออกมาร่วมแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตให้มั่นใจว่าการดำเนินการทุกอย่างในองค์กรนั้นเป็นไปตามมาตรการการคว่ำบาตรตัวใหม่ พร้อมระบุว่า

“ข้อกำหนดการคว่ำบาตรทางการเงินไม่ได้ออกมาเพื่อแบ่งแยกสินทรัพย์คริปโต และสินทรัพย์รูปแบบอื่นแต่อย่างใด แต่ทว่าการใช้สินทรัพย์คริปโตเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจนั้นจะถูกจัดให้เป็นการกระทำความผิดทางอาญาได้”

ทันทีที่มาตรการทางเศรษฐกิจในการต่อต้านรัสเซียข้อใหม่ถูกนำมาใช้ ได้สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริษัทในเครือฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald, ธนาคารรายใหญ่อย่าง Goldman Sachs และบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตอย่าง Visa และ Mastercard ต่างก็มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาระงับการให้บริการในรัสเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ชาวรัสเซียหันไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทคริปโตในดูไบ

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ในสหรัฐอเมริกาบางรายจะกล่าวว่าประชาชน และองค์กรต่าง ๆ ในรัสเซียจะต้องพบเจอกับวิกฤตจากการใช้คริปโตเพื่อเลี้ยงการคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในวงกว้างก็ตาม แต่ทว่าทางสำนักข่าว Reuters ได้ออกมารายงานว่า ประชาชนชาวรัสเซียหลายรายได้หันไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทคริปโตในประเทศพันธมิตรอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทดังกล่าวก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้รับคำร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับการนำคริปโตมาใช้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือยกเลิกการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นเดียวกัน

บริษัทคริปโตในอเมริกาต้องยุติการให้บริการเพื่อป้องกันรัสเซียใช้คริปโต

Capture00 27 1024x574.jpg

บริษัทคริปโตจำนวนมากในสหรัฐอเมริกานั้นมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามมาตรการที่ทางรัฐบาลออกมาอย่างเคร่งครัดเพื่อให้กระทบต่อธุรกิจของตนเองอย่างน้อยที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จาก Coinbase และ Kraken ที่จัดตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ต้องออกมาระงับการใช้สินทรัพย์ของผู้ที่มีชื่ออยู่ในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรเช่นเดียวกัน แม้แต่แพลตฟอร์มคริปโตรายใหญ่อย่าง Binance เองก็ได้ออกมากล่าวว่า ผู้ใช้งานเปิดบัญชีจากธนาคารในรัสเซียอาจไม่สามารถนำสินทรัพย์ หรือเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มในการชำระเงินจากบัตร Mastercard และ Visa ที่ออกในประเทศรัสเซียได้

รัฐมนตรียูเครนเรียกร้องให้บริษัทคริปโตยุติการให้บริการแก่รัสเซีย

สถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครน ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธจากรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางด้าน Mykhailo Fedorov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลแห่งยูเครน ได้ออกมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เพื่อเรียกร้องให้บริษัทด้านการเงิน และองค์กรรายใหญ่ รวมไปถึงบริษัทคริปโตต่าง ๆ ให้ยุติการให้บริการในประเทศรัสเซียด้วยเช่นเดียวกัน

https://twitter.com/ZelenskyyUa/status/1502305279022714884?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1502305279022714884%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fcointelegraph.com%2Fnews%2Fus-and-eu-double-down-on-measures-against-russia-potentially-using-crypto-to-evade-sanctions
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ประกาศสนับสนุนการจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin ระดับประเทศตามรอยสหรัฐฯ