Cardano

ธุรกรรมบน Cardano เพิ่มขึ้นกว่า 50 เท่า

Cardano Ada Marca Un Nuevo Maximo Puede Subir Mas En El Corto Plazo.jpg

ปริมาณการทำธุรกรรมบน Cardano ทะยานขึ้นมาอย่างมหาศาลในปี 2022 บ่งชี้ถึงความต้องการของสถาบันการเงินในการนำ Blockchain มาใช้

IntoTheBlock ผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบนตลาดคริปโตรายงานว่าพบจำนวนการทำธุรกรรมขนาดใหญ่บนเครือข่าย Blockchain ของ Cardano ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นมากว่า 50 เท่าในปีนี้

ธุรกรรมบน Cardano ได้รับความสนใจอย่างมากจากสถาบันการเงิน

ปริมาณธุรกรรมขนาดใหญ่ (LTV) หมายถึง ปริมาณการทำธุรกรรมสุทธิที่เป็นตัวกำหนดให้มูลค่าโทเคน ADA ของ Cardano พุ่งทะยานไปมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปีที่ผ่านมา LTV ได้เพิ่มขึ้นมาจาก 1.35 พันล้าน  ADA ต่อวัน จนถึง 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่ากับ 81.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) บน Cardano เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นมากว่า 51 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น และยังถือเป็นปริมาณที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 ที่ผ่านมาอีกด้วย อ้างอิงจากโพสต์ทวิตเตอร์ของ IntoTheBlock เมื่อวันอังคารที่ 29 มีนาคม ที่ระบุว่าปริมาณธุรกรรมบน Cardano ที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ได้ชี้ชัดว่าความต้องการของสถาบันการเงินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

Fp Akzt5 X0 a A6c Se.jpg
Source: IntoTheBlock

Address ที่เปิดใช้งานบนเครือข่ายก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ในขณะเดียวกันตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น ขนาดการทำธุรกรรมโดยเฉลี่ย และความผันผวนของเหรียญก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ มากนัก แต่ทว่าปริมาณ Address ทั้งหมดที่มีนั้นกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ต้นปี 2022 โดยในปี 2022 นี้ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยจำนวน Address ทั้งหมดกว่า 3.4 พันล้านแห่ง จนถึงปัจจุบันที่เติบโตขึ้นมาถึง 5 ล้านรายการ ในขณะที่ DApps หรือ Decentralized Application ที่อยู่บนเครือข่ายเพียง 7 รายการเท่านั้น ที่ปรากฏอยู่บน DefiLlama ในปัจจุบัน ทั้งนี้มูลค่าโดยรวมที่สินทรัพย์กักเก็บไว้ได้ (TVL) ในปัจจุบันคงอยู่ที่ 303 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ้างอิงจากการรายงานของ DefiLlama ผู้ให้บริการติดตามแอปพลิเคชัน DeFi ที่เพิ่งทะลายสถิติสูงสุดตลอดกาลไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา อยู่ที่ 326 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ยังคงมีสิ่งใหม่ ๆ จาก Cardano ให้ทุกคนรอติดตาม

Timthumb.jpg
Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Cardano

ทางด้าน Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Cardano ได้ออกมาระบุว่ายังคงมีสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นอีกมากหลังจากการ Hard Fork หรือ การแยกเครือข่าย Blockchain ใหม่ออกจากเครือข่ายเดิมเพื่อทำการปรับปรุงระบบนับตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา จนถึงช่วงกลางปีนี้ โดยเขาได้เริ่มออกแถลงการณ์พิเศษผ่านการประชุม Binance Blockchain Week ในดูไบ เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมระบุถึงความจำเป็นสำหรับการกระจายอำนาจ และอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในสายงานดังกล่าวได้ นอกจากนี้เขายังมองว่าปัจจุบันทุกคนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มาพร้อมกับ Web3 แต่ปัญหาก็คือว่าเทคโนโลยีตัวนี้ไม่มีความคล้ายคลึงกับ Web2 เลย ซึ่งยังไม่มีใครที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำเพื่อตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ให้กับอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้

“หากพวกเราสามารถกระจายอำนาจได้อย่างแท้จริงก็จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกันได้อย่างแน่นอน สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เพียงออกกฎหมายให้กับนวัติกรรมใหม่เหล่านี้ รวมไปถึงต้องตัดสินใจว่าอะไรคือนโยบายสำหรับสิทธิในการใช้คริปโตเคอเรนซี และเทคโนโลยี Blockchain ที่เหมาะสม”

ผู้ร่วมก่อตั้ง Cardano ชักจูงให้ผู้คนหันมาใช้ระบบ Decentralized

ยิ่งไปกว่านั้น Hoskinson ยังระบุว่าในปัจจุบันมีทางแยกอยู่ 2 ทางที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าของทุกคน โดยหนทางแรกคือการรักษาความซื่อสัตย์ และพยายามศึกษา ค้นคว้า และทำความเข้าใจกับระบบการกระจายอำนาจ หรือ หนทางที่ 2 คือการเลือกที่จะไม่สนใจ ซึ่งในกรณีนี้หากทุกคนเลือกที่จะทำตามตัวเลือกแรกแล้วนั้น ทางระบบก็จะมอบผู้ที่เข้ามากำกับดูแล รวมไปถึงการป้องกันความเสี่ยง, ระบบ Centralized ระดับสูง, อัลกอริธึมฉันทามติที่ได้รับการปรับให้เกิดความเหมาะสมมากที่สุดที่สามารถตั้งค่าใหม่เมื่อใดก็ได้ และน้อยคนนักที่จะสามารถควบคุมคนจำนวนมากได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ Hoskinson ก็ได้ออกมากล่าวทิ้งท้ายว่า

“นี่คือการตัดสินใจ และผมจะไม่เป็นผู้ที่ตัดสินใจเพียงคนเดียว พวกเราทุกคนจะต้องทำมันด้วยกัน”

Cardano ถูกจัดอันดับให้มีการพัฒนามากที่สุดเป็นอันดับ 3

บทวิเคราะห์จาก Santiment ได้เปิดเผยว่า Blockchain ของ Cardano กลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ได้รับการพัฒนาในอุตสาหกรรม Blockchain อย่างแข็งขัน โดยได้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 ของตลาด ด้วยจำนวน Contributor รวมแล้วกว่า 120 รายต่อวัน รองลงมาจาก Solana ผู้ที่มีการพัฒนาอย่างแข็งขันที่สุดด้วยจำนวน Contributor รวมสุทธิ 533 ราย และเครือข่าย Ethereum ที่หล่นลงมาอยู่ในลำดับที่ 2 อีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลับมาแล้ว XRP พุ่ง 100% ใน 16 วัน! ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 35 เดือน
Michael Saylor เผย! ไม่มีทางที่ Bitcoin จะร่วงกลับลงไปที่ 60,000 ดอลลาร์
Tether สร้าง Stablecoin มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์บนเครือข่าย Tron เสริมสภาพคล่องให้กับตลาด
VanEck คาดการณ์ Bitcoin จะทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในสองไตรมาสถัดไป