รัฐมนตรีคลังซิมบับเวมองคริปโต ช่วยลดต้นทุนในเรื่องทำธุรกรรมได้ดียิ่งขึ้น
รัฐมนตรีคลังซิมบับเวมองว่า คริปโตจะช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมและตอนนี้ประเทศมีศักยภาพที่จะรองรับ Blockchain แล้ว
![Mthuli Ncube.jpg](https://cdn2.cryptosiam.com?url=https://api.cryptosiam.com/assets/e9aea9f6-9ae0-4961-8691-159b472bbe6f.jpg&width=1610)
รัฐมนตรีคลังซิมบับเวมองว่า คริปโตจะช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมและตอนนี้ประเทศมีศักยภาพที่จะรองรับ Blockchain แล้ว
Mthuli Ncube รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศซิมบับเวได้ออกมาพูดถึงเรื่องของข้อดีของการใช้เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ในประเทศ
รัฐมนตรีคลังซิมบับเวชี้คริปโตคือนวัตกรรมที่ต้องนำมาใช้ในการขับเคลื่อนประเทศ
โดยเขาคิดว่า มีความเป็นไปได้ว่า ประเทศซิมบับเวอาจมีการใช้โซลูชันคริปโตเคอร์เรนซี่เข้ามาช่วยเพื่อลดต้นทุนในการโอนเงินข้ามพรมแดน
ก่อนหน้านี้ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เคยออกมาพูดถึงคริปโตเคอร์เรนซี่ว่า ควรที่จะหันมาทำความเข้าใจในนวัตกรรมการลงทุนในบิทคอยน์มากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ Ncube ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีแล้วนั้น เขาได้สั่งให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการศึกษาประเทศสวิซเซอร์แลนด์เพื่อที่จะทำความเข้าใจในสินทรัพย์ประเภทบิทคอยน์มากขึ้น
![Ix9kdnqjnja 1024x515.jpg](/assets/5cf70473-0f5e-46fd-b0b2-bd736a8003ab.jpg)
อย่างไรก็ตาม เขาได้แสดงความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี่เอาไว้ว่า ดูไบซึ่งเป็นฮับทางด้านสกุลเงินคริปโตและการชำระเงินนั้น อาจช่วยลดต้นทุนในส่วนของการทำธุรกรรมได้
เช่นเดียวกับชุมชนคริปโตเคอร์เรนซี่ของประเทศซัมบับเวนั้น มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับลูกกับเรื่องของรัฐมนตรีมากเท่าไรนัก
ซิมบับเวมีความพร้อมที่จะรองรับเทคโนโลยี Blockchain แล้ว
ขณะเดียวกันทางด้าน Victor Mapunga ซีอีโอของบริษัท Flexfintx ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับรัฐมนตรีคลังว่า ตอนนี้ชาวซิมบับเวพร้อมที่จะรับเทคโนโลยีบล็อกเชนและรับธุรกิจคริปโตประเภท startup แล้ว
อย่างไรก็ตาม ทาง Jopa Sayeyo วุฒิสภากลับไม่ค่อยเห็นด้วยกับการนำคริปโตเคอร์เรนซี่เข้ามาบังคับใช้ในประเทศ โดยเขาได้ทำการทวีตว่า เมื่อไรที่ธนาคารหยุดที่ให้ความสำคัญกับอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ทางธนาคารทุนสำรองของซิมบับเวก็อาจพิจารณาให้ความสำคัญกับคริปโตเคอร์เรนซี่มากขึ้น
ประเทศต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกาใต้เริ่มให้ความสำคัญกับการวางรากฐานระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัลมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการวางระบบแบบนี้จะช่วยให้ประเทศสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดและดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้ง่ายมากขึ้น