Wirecard ผู้ออกเดบิตคริปโตเผยสูญเสียเงินกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์
บริษัทการเงินชื่อดัง Wirecard เปิดเผยว่าได้พบข้อผิดพลาดระหว่างการทำบัญชีของบริษัท พบเงินหายไปกว่าหนึ่งในสี่ของรายได้
บริษัทการเงินชื่อดัง Wirecard เปิดเผยว่าได้พบข้อผิดพลาดระหว่างการทำบัญชีของบริษัท พบเงินหายไปกว่าหนึ่งในสี่ของรายได้
บริษัท Wirecard ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทการเงินชั้นนำของประเทศเยอรมันและเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการบัตรเดบิตได้ปรากฎเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น นั่นคือบริษัทดังกล่าวได้มีการประกาศแก่บุคคลภายนอกถึงความผิดพลาดภายในบริษัทที่ทำให้ยอดรายรับรวมคงเหลือของบริษัทนั้นหายไปกว่าหนึ่งในสี่
เงินที่หายไป
เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นได้เกิดขึ้นจากการที่ทางบริษัทบัญชีอย่าง EY ซึ่งได้ให้บริการการตรวจสอบบัญชีแก่ทางบริษัทนั้นได้มีการแจ้งว่าพวกเขาไม่สามารถหาที่มาที่ไปของเงินกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ได้ ซึ่งหมายความว่าจำนวนรายรับของบริษัทนั้นคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงอย่างมากนั่นเอง โดยทางบริษัทได้มีการสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของพนักงานภายในบริษัทซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขดังกล่าว
แม้ว่าทางบริษัทนั้นจะยังไม่มีการสรุปถึงสาเหตุเบื้องหลังออกมาอย่างชัดเจนก็ตาม แต่ข่าวดังกล่าวได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อถือจากเหล่านักลงทุน ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทนั้นร่วงลงอย่างมากจากระดับที่ 104.50 ยูโร มาสู่ระดับที่ 25.82 ยูโร ในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา อีกทั้งทางบริษัทยังมีความเสี่ยงที่ทางธนาคารผู้ให้กู้ของบริษัทนั้นมีสิทธิที่จะเพิกถอนสัญญากู้และเรียกเงินจากบริษัทคืนได้ทันทีอีกด้วย
ผลกระทบต่อวงการ Crytocurrency
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น ยังส่งผลให้ผู้คนในวงการ Cryptocurrency ในภูมิภาคยุโรปเป็นที่วิตกกังวล เนื่องจากบริษัทดังกล่าวนั้นเป็นผู้ให้บริการในการออกบัตรเดบิตสำหรับใช้จ่ายด้วยสกุลเงิน Cryptocurrency เป็นสกุลเงินยูโร ไม่ว่าจะเป็นบัตรของ Crypto.com, TenX และ Wirex เอง โดยการใช้บริการของพวกเขาอาจจะได้รับผลกระทบจากการความผิดพลาดภายในบริษัทได้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการดำเนินการออกบัตรเดบิตของบริษัทดังกล่าวนั้นได้รับการสำรองเงินล่วงหน้าไว้แล้วโดยสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งทางบริษัท Wirecard เองไม่ได้ครอบครองเงินของเหล่าผู้ใช้บริการไว้กับทางบริษัทเอง ดังนั้นแล้วกรณีดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการในปัจจุบัน แต่หากเหตุการณ์นั้นแย่ลงและส่งผลให้ทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการออกบัตรเดบิตเพิ่มเติมให้แก่บริษัทซึ่งใช้บริการของพวกเขาแล้ว บริษัทด้าน Cryptocurrency ซึ่งเตรียมออกสินค้าใหม่ๆ เป็นบัตรเดบิต Cryptocurrency นั้นย่อมจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดนี้ กรณีดังกล่าวยังเป็นการย้ำเตือนเราถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้ไว้วางใจให้บริษัทซึ่งเป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการรวมไว้ที่ส่วนกลางนั้นจัดการดูแลทรัพย์สินของเรา ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเกิดความผิดพลาดจากการดำเนินการของบุคลากรภายในองค์กรไปจนถึงความเสียหายที่จะรวมตัวไว้มากในจุดเดียว โดยจุดบอดดังกล่าวนั้นสามารถแก้ไขได้โดยการใช้งานเครือข่าย Blockchain นั่นเอง
หากสนใจสามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้ที่ Wirecard