General

แฮ็กเกอร์สายคุณธรรมคว้าเงินกว่า 30 ล้านบาท จากข้อผิดพลาดใน Smart Contract

Photo 1601723897234 327147304013.jpg

แพลตฟอร์ม ArmorFi ใจป้ำ เปิดโอกาสให้เหล่าแฮ็กเกอร์สายหล่อ สายขาว ที่ไม่ใช้ฝีมือของตัวเองไปในทางที่มิชอบ มาตรวจสอบ และระบุข้อบกพร่องที่สำคัญในสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทเกิดความมั่นใจเพิ่มขึ้นในการที่จะส่งแพลตฟอร์มออกท่องสู่โลกแห่งความเป็นจริง

แฮ็กเกอร์สายคุณธรรม หรือที่ในวงการจะเรียกกันว่า “Whitehat” ต่างหลั่งไหล่เข้ามาเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์ม ArmorFi โดยเป็นรางวัลก้อนใหญ่สำหรับผู้ที่สามารถพบเจอบั๊กเกี่ยวกับสัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract ของพวกเขา และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือมูลค่าของรางวัลในครั้งยังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากเดิมหลังจากที่ราคาโทเค็น ARMOR พุ่งสูงขึ้นหลังจากการประกาศเงินรางวัลดังกล่าว ทำให้นี่ถือเป็นหนึ่งในการมอบค่าหัวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

โดยเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในที่สุด ArmorFiก็พบเจอหัวกะทิผู้มากฝีมือ โดยทางแพลตฟอร์มออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า Alexander Schlindwein จาก Idea Markets เป็นผู้ที่คว้ารางวัลได้สำเร็จ โดยเขาได้ระบุข้อบกพร่องที่สำคัญในสัญญาอัจฉริยะก่อนที่แพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยแห่งนี้จะเริ่มใช้งานจริง

ปัญหาที่ Schlindwein คนพบมีความสำคัญอย่างสำหรับองค์กรนี้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการแก้ไขข้อบกพร่องจะทำเหล่าอาชญากรทั้งหลายก้าวท้าวเข้าแพลตฟอร์มด้วยเงินเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เขานั้นจะสามารถสูบเงินทั้งหมดจากสัญญาการจัดจำหน่ายของ ArmorFi ไปได้ในไม่ช้า

Alexander Schlindwein ได้รับรางวัลเป็นเหรียญ ARMOR จำนวน 1 ล้านเหรียญ โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ700,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาของการประกาศ

อย่างไรก็ตามข่าวการจ่ายเงินรางวัลที่หาบั๊กเจอได้เพิ่มความเชื่อมั่นของตลาดในแพลตฟอร์ม และทำให้ราคาโทเค็นพุ่งสูงถึง 1.58 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่ามูลค่าเหรียญที่ Schlindwein มีอยู่ในมือกลับทวีคูณขึ้นสูงถึง 1.5 ล้านเหรียญในทันที และกลายทำให้เป็นหนึ่งในรางวัล Bug ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

รางวัลเป็นสิ่งจูงใจชั้นเลิศ

นี่ไม่ใช่กรณีแรกของการที่เหล่าแฮ็กเกอร์ออกมาทำเพื่อสาธารณะประโชยน์ โดยการตั้งค่าหัวในรูปแบบดังกล่าวกลายเป็นหนึ่งในวิธีสำคัญในการต่อสู้ทดสอบแพลตฟอร์มใหม่ก่อนที่จะเผยแพร่ แม้รางวัลจะดูมีมูลค่ามหาศาลเท่าใดก็ตาม หากแต่แพลตฟอร์มที่มีรูรั่ว หลุดออกไปถึงมือคนไม่ดีแล้วว่ะก็ บอกได้เลยว่าผลเสียนั้นจะกลับมาเป็นเท่าทวีคูณ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เท่าให้เหล่าบริษัทต่าง ๆ ยอมควักเงินมหาศาลเพื่อป้องกันความเสี่ยง และความเสียหายในอนาคต

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC