Blockchain

เมื่อ ETH เป็น POS "The Merge" จะเกิดอะไรขึ้น?

302098914 152969277378121 8704702733607979537 N.jpeg

งาน Crypto, NFT & Beers จับประเด็น "The Merge" จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ถ้า ETH เปลี่ยนเป็น POS ไปดูกันว่า จะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจบ้าง?

เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ทีมงาน Cryptosiam ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน "Crypto, NFT & Beers" ครั้งที่ 5 ณ โรงแรม Holiday Inn Bangkok Sukhumvit โดยมีประเด็นที่พูดถึง คือ เหตุการณ์ "The Merge" จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ถ้า ETH เปลี่ยนเป็น POS เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปดูกันว่า เหล่าเซเลปชั้นแนวหน้าของวงการคริปโตไทยอย่างคุณต้นฮ้อจาก KULAP.io คุณโดม จาก Tokenine และคุณคิมจาก KIM Property Live จะพูดคุยถึงประเด็นเด็ดอะไรบ้าง

Ethereum คือ อะไร?

Ethereum คือ สกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้อักษรย่อว่า "ETH" เป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนคล้าย ๆ กับบิทคอยน์ แต่สามารถทำหน้าที่เป็นระบบปฎิบัติการได้ด้วย ดังนั้น ถ้าเราจะพูดถึงสกุลเงินของ Ethereum ก็ควรเรียกว่า "Ether" จะถูกต้องกว่า แต่ด้วยการเป็นระบบปฎิบัติการและเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนการทำงานของเครือข่าย จะเรียกรวมกันว่า "Ethereum" ก็ไม่ใช่เรื่องผิดนัก

ในปัจจุบัน Ethereum เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ครองสัดส่วนในตลาดถึง 7.76%* โดยมีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี 2022 จำนวน 5.52 หมื่นล้านบาท* กลับมาบูมอีกครั้งจากประกาศอัปเกรดเวอร์ชั่นและมีการคาดเดาว่า ภายในสิ้นปี 2022 นี้ อาจจะมีมูลค่าถึง 5,783 เหรียญสหรัฐฯเลยทีเดียว**

"The Merge" คือ อะไร?

The Merge คือ ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงการยืนยันธุรกรรมของ Ethereum จากกลไกการทำงานแบบ Proof of Work (POW) ที่อาศัยกำลังไฟของการ์ดจอจากเครื่องขุดทั่วโลก โดยมีนักขุด (Miner) ที่ได้รับผลตอบแทน เป็นผู้ยืนยันการทำธุรกรรม (Validator) ซึ่งจะต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการตรวจสอบการยืนยันธุรกรรม ทีนี้พอเปลี่ยนมาเป็นกลไกการทำงานแบบ Proof of Stake (POS) แล้ว นักขุด (Miner) จะต้องทำการ Staking โดยการวางทุนประกันด้วย ETH เป็นการยืนยันธุรกรรมแทน ซึ่งให้ผลตอบแทนระหว่าง 5-10% ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่เข้ามา Stake และปริมาณกิจกรรมบนเครือข่าย คาดว่าน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเอาชนะในระบบทุนนิยมและลดปริมาณการใช้พลังงานได้มากถึง 99.95% 

"The Merge" จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ ETH เปลี่ยน Consensus เป็น POS

แน่นอนว่าการอัปเกรดครั้งนี้เป็น Hard Fork ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นำไปสู่การแยกเชน (Chain) อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ Ethereum เวอร์ชั่นเก่า "เข้ากันไม่ได้" กับเวอร์ชั่นใหม่อีกต่อไป หลังจากการอัพเกรดเสร็จสมบูรณ์แล้ว อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรง เนื่องจากมีการลดอัตราการผลิตเหรียญลงไปกว่า 90% อธิบายตามหลักการง่าย ๆ คือ เมื่อปริมาณลดลง (Supply) และความต้องการเพิ่มขึ้น (Demand) จะทำให้ราคาของเหรียญ Ethereum มีโอกาสเติบโตสูงขึ้นในระยะยาว

ส่วน Ethereum เวอร์ชั่นเก่า อาจจะยังมีคนขุดต่อไป แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการพัฒนาจนเกิดมูลค่าเพิ่มให้กับเหรียญได้อีก แต่ว่าการถือเหรียญ ETH ก่อน The Merge เกิดขึ้น ผู้ถือครองจะได้รับเหรียญ ETH ใหม่ที่เกิดจากการ Hard Fork ก็เท่ากับว่า ผู้ถือเหรียญจะได้เหรียญ ETH ทั้งเวอร์ชั่นที่เป็นทั้ง POW และ POS ไปทั้ง 2 เวอร์ชั่น

และท้ายที่สุด "The Merge" ในครั้งนี้ ยังไม่สามารถการันตีได้ว่า เมื่ออัปเกรดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ETH 2.0 จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการทำธุรกรรมได้มากขึ้น การประมวลผลจะเร็วขึ้น ค่าแก๊สจะถูกลงได้อย่างที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติด

งาน Crypto, NFT & Beers ครั้งที่ 5 โดย Crypto Meetup Thailand

Image 16.png

ต้นฮ้อ พลากร ยอดชมญาณ CEO KULAP.io คุณโดม เจริญยศ CEO Tokenine และคุณคิม ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ KIM Property Live ได้ชี้แจงไว้น่าสนใจว่า การที่ Ethereum ได้ทำการอัปเกรดนั้น ช่วยให้ Ecosystem เติบโตได้เร็วขึ้น สามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าแต่ก่อน และสามารถสร้างตัวเงินได้มากกว่าจากกลไกการทำงานแบบ POS

นอกจากนี้ยังได้พูดคุยถึงแนวโน้มในอนาคตว่า ไม่เพียงแค่ Bitcoin และ Ethereum เท่านั้น แต่จะมีบล็อกเชนใหม่ ๆ ที่เป็น Security Blockchain เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีบล็อกเชนไหนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากกว่ากัน

งาน Crypto, NFT & Beers ในครั้งนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นโดย Crypto Meetup Thailand เป็นประจำทุก ๆ เดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนในแวดวงคริปโตได้ร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ส่วนงานหน้าจะจัดขึ้นที่ไหนนั้น ติดตามได้ที่คริปโตสยามเลย!

Image 17.png

หมายเหตุ

*สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยมูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสะสมในปี 2565

**Finder's Cryptocurrency Price Predictions Report

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: บทความนี้ไม่ใช่บทความแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลับมาแล้ว XRP พุ่ง 100% ใน 16 วัน! ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 35 เดือน
Michael Saylor เผย! ไม่มีทางที่ Bitcoin จะร่วงกลับลงไปที่ 60,000 ดอลลาร์
VanEck คาดการณ์ Bitcoin จะทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในสองไตรมาสถัดไป
Ham's Rectangle Template   2024 11 12 T091007.290