เวสต์เวอร์จิเนียร่วมวง! เสนอร่างกฎหมายจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin รับมือเงินเฟ้อ
VanEck ประเมินว่า หากร่างกฎหมายที่อนุญาตให้กองทุนสำรองของรัฐต่างๆ ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการพิจารณา อาจส่งผลให้มีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าสู่ Bitcoin มูลค่าสูงถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
VanEck ประเมินว่า หากร่างกฎหมายที่อนุญาตให้กองทุนสำรองของรัฐต่างๆ ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการพิจารณา อาจส่งผลให้มีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าสู่ Bitcoin มูลค่าสูงถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เวสต์เวอร์จิเนียกลายเป็นรัฐล่าสุดในสหรัฐฯ ที่เสนอร่างกฎหมายสำหรับกองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล โดยวุฒิสมาชิก Chris Rose ได้ยื่นร่างกฎหมาย The Inflation Protection Act of 2025 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดทางให้กระทรวงการคลังของรัฐสามารถนำเงินทุนบางส่วนลงทุนใน Bitcoin และโลหะมีค่า
ร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้สามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดเกิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง Stablecoins อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีเพียง Bitcoin เท่านั้นที่อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุว่ารัฐสามารถถือครองสินทรัพย์ได้ทั้งแบบ On-Chain และผ่านกองทุน ETF โดยจำกัดสัดส่วนการลงทุนไว้ที่ 10% ของเงินทุนทั้งหมด เช่นเดียวกับอีกหลายรัฐ
รัฐต่างๆ เร่งเดินหน้า ขณะที่รัฐบาลกลางยังอยู่ระหว่างศึกษา
ร่างกฎหมายของเวสต์เวอร์จิเนียเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่หลายรัฐเริ่มพิจารณากองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อลดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ อันเป็นผลจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม ประธานาธิบดี Donald Trump ได้สั่งให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับรัฐบาลกลาง ขณะที่หลายรัฐเริ่มเดินหน้าดำเนินการไปก่อนแล้ว
โดยข้อมูลจาก VanEck ยังระบุว่า หากร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ได้รับการอนุมัติทั้งหมด อาจส่งผลให้มีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าสู่ Bitcoin มูลค่าสูงถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ สภาผู้แทนราษฎรของรัฐยูทาห์ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้กระทรวงการคลังของรัฐลงทุนใน Bitcoin Altcoins และ Stablecoins ที่มีศักยภาพ โดยขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภารัฐยูทาห์
ในวันเดียวกัน รัฐเคนตักกีก็ได้เสนอร่างกฎหมายที่เปิดทางให้รัฐสามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้สูงสุด 10% ของเงินทุนทั้งหมด
ขณะที่รัฐมิชิแกนเพิ่งเข้าร่วมไปเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ โดยร่างกฎหมายของรัฐดังกล่าวไม่ได้ระบุข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถถือครองได้ ซึ่งแตกต่างจากร่างกฎหมายของรัฐอื่น ๆ
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
