สหรัฐอเมริกาจับมือกับอังกฤษ ต่อต้านการก่ออาชญากรรมคริปโต
สหรัฐอเมริกาจับมือกับอังกฤษในการร่วมมือไม่ให้มีการก่ออาชญากรรมคริปโตให้บานปลายไปมากกว่านี้
สหรัฐอเมริกาจับมือกับอังกฤษในการร่วมมือไม่ให้มีการก่ออาชญากรรมคริปโตให้บานปลายไปมากกว่านี้
รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกากับสหราชอาณาจักรได้เห็นชอบร่วมกันในการปราบปรามการใช้เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ที่มีการใช้ไปในทางที่ผิดกฎหมาย รวมไปถึงการปราบเหรียญคริปโตที่มีไวรัสเรียกค่าไถ่แฝงอยู่ด้วย
สหรัฐอเมริกาจับมือกับอังกฤษ ยับยั้งการก่ออาชญากรรมคริปโต
โดยกระทรวงยุติธรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศเรื่องนี้ สอดคล้องกับสำนักงานสืบสวนของสหรัฐอเมริกาหรือ FBI ที่ได้เดินหน้าปราบปรามไวรัสเรียกค่าไถ่ ทางด้านเจ้าหน้าที่ทางด้านความมั่นคงแห่งชาติและการปราบปรามอาชญากรรมได้ทำการหารือกับทาง Priti Patel รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของทางสหราชอาณาจักร
การพูดคุยหารือกันครั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้พูดถึงเรื่องของการให้ความร่วมมือกันในการต่อต้านภัยคุกคามระหว่างประเทศ ความปลอดภัยโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นการก่อการร้าย การโจมตีทางไซเบอร์และการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
เรื่องนี้ทั้งสองประเทศต่างก็ให้คำมั่นและเห็นชอบที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการใช้เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่และไวรัสเรียกค่าไถ่ โดยที่รัฐบาลของสหรัฐยังคงเดินหน้าปราบปรามไวรัสเรียกค่าไถ่อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเปิดตัวทีมงานควบคุมกำกับทางด้านคริปโต
เรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ ร่วมมือเรื่องนี้ด้วยกัน
กระทรวงยุติธรรมยังคงเฝ้าติดตามการก่ออาชญากรรมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการก่ออาชญากรรมด้วยเหรียญคริปโต บริษัทซื้อขายสินทรัพย์คริปโตที่ดำเนินกิจการแบบผิดกฎหมายและการใช้คริปโตเป็นแหล่งฟอกเงิน
ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้เรียกร้องให้ทางประเทศต่าง ๆ 30 ประเทศทำการหยุดยั้งการก่ออาชญากรรมทางด้านคริปโต ซึ่งนั่นก็หมายความว่า การก่ออาชญากรรมคริปโตเริ่มเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลกมากขึ้น
ที่ผ่านมาบริษัทของสหรัฐอเมริกาหลายแห่งเจอกับการโจมตีด้วยไวรัสเรียกค่าไถ่ ซึ่งทำให้หลายบริษัทสูญเงินไปจำนวนมาก ทำให้ทางหน่วยงานรัฐบาลจำต้องวางมาตรการในการหยุดยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า รวมไปถึงเหรียญคริปโตที่ผู้คนเริ่มมีการใช้ทำธุรกรรมและอาจตกเป็นเหยื่อของไวรัสเรียกค่าไถ่