บริษัท Unilever เตรียมใช้ Blockchain ลดภาวะโลกร้อน
บริษัท Unilever ประกาศเตรียมนำ Blockchain มาใช้ตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่า หวังลดภาวะโลกร้อน
บริษัท Unilever ประกาศเตรียมนำ Blockchain มาใช้ตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่า หวังลดภาวะโลกร้อน
บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคข้ามชาติ Unilever ที่มีบริษัทสาขากว่า 190 ประเทศทั่วโลกประกาศใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภท (DLT) และเทคโนโลยีนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อจัดการปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและปัญหาเรื่อง Climate Change บริษัทตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงเหลือศูนย์ภายในปี 2039
บริษัท Unilever เผยกลยุทธ์อนุรักษ์ธรรมชาติด้วย Blockchain
จากข้อมูลของ Conservation International พบว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 11% ทั่วโลกเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าและความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ ซึ่งบริษัท Unilever ก็มองเห็นถึงปัญหานี้และต้องการจะช่วยลดปัญหาโดยการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับระบบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
บริษัทจะใช้ Blockchain ในการตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่าและจะเลิกการตัดไม้ทำลายป่าภายในปี 2023 รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงเหลือศูนย์ภายในปี 2039 ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain สามารถนำมาใช้จัดการกับ Supply Chain เพื่อตรวจสอบการอนุรักษ์ธรรมชาติได้โดยตรง นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมที่จะนำ Blockchain มาใช้จัดการกับ Supply Chain สินค้าของบริษัทด้วย
แก้ปัญหา Climate Change ด้วย Blockchain ทำอย่างไร?
บริษัท Unilever จะนำ Blockchain มาใช้กับระบบติดตาม Supply Chain ร่วมกับภาพถ่ายทางดาวเทียมซึ่งจะช่วยทำให้รู้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าตรงไหนบ้าง นอกจากนี้บริษัทจะลงทุนกว่า 1 พันล้านยูโรให้กับกองทุน Climate and Nature Fund ต่อสู้กับสภาวะโลกร้อนด้วย อีกทั้งบริษัท Unilever กำลังจะสร้างระบบระบบการเกษตรแบบปฏิรูปสำหรับซัพพลายเออร์เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาทำตามคำแนะนำเพื่อยุติปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าไม้ด้วย
โปรเจค Blockchain กับการพัฒนาที่ยั่งยืนอื่นๆรวมถึงไทย
ในปี 2018 แบรนด์ไอศกรีมของ Ben & Jerry's ตกลงทดลองใช้แพลตฟอร์ม Blockchain โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับคาร์บอนเครดิตจากโครงการอนุรักษ์ป่าในเปรู Poseidon Foundation ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยีโดยตอนนี้โปรเจคกำลังพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถติดตามการชดเชยคาร์บอนที่พวกเขาซื้อจาก Ben & Jerry's และร้านค้าอื่นๆได้
OpenSC เป็นอีกหนึ่งโปรเจคด้าน Blockchain ที่ทำงานเกี่ยวกับการใช้ Blockchain เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมมือกับ Nestlé เพื่อติดตามสินค้าจำพวกนมของนิวซีแลนด์ไปยังโรงงานในตะวันออกกลาง
ประเทศไทยและมาเลเซียก็กำลังสำรวจการใช้งาน Blockchain เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม
สืบค้นเพิ่มเติม btcmanager.com