อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นจุดเปลี่ยนมุมมองคนต่อ Bitcoin
ในสหรัฐอเมริกามีอัตราการว่างเงินเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา คนมอง Bitcoin มากขึ้นกว่าเดิม

ในสหรัฐอเมริกามีอัตราการว่างเงินเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา คนมอง Bitcoin มากขึ้นกว่าเดิม
โลกประสบเคราะห์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วยังไม่พอ สิ่งที่เป็นผลกระทบตามมาจากโรคนี้นอกจากคนล้มป่วยและเสียชีวิตหลายล้านก็คือสภาวะทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งน่ากลัวไม่แพ้กับอาการป่วยของโรคนี้เลย
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้มีรายงานจาก Forbes เผยว่าประชากรกำลังมองหาสินทรัพย์อย่างอื่น เช่น Bitcoin มากขึ้นจากแต่ก่อน โดยเฉพาะกลุ่มคนยุค Millennials
ประชากรเริ่มมอง Bitcoin เป็นตัวเลือกการลงทุน
รายงานจาก The Tokenist ได้มีนำเสนอข้อมูลว่าคนสนใจลงทุน Bitcoin เพิ่มมากขึ้น โดยนำข้อมูลของปี 2017 และ 2020 มาเปรียบเทียบกัน คัดส่วนหนึ่งของรายงานออกมากล่าวว่า
“ขณะนี้มีชาวอเมริกันว่างงานมากกว่า 20 ล้านคน มุมมองของประชาชนต่อ Bitcoin ได้เปลี่ยนไป”
ผลการวิจัยจากกลุ่มคน Millennials พบว่าพวกเขาเลือกลงทุน Bitcoin มากกว่าทองคำ พันธบัตรรัฐบาลหรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแสดงว่าคนยุคนี้มีความเชื่อมั่นในตัว Bitcoin มากกว่าที่ผ่านมาและความเชื่อมั่นต่อตัวสินทรัพย์แบบดั้งเดิมกลับลดน้อยลงไปด้วย
แต่อย่าลืมว่าผลการวิจัยเป็นการคัดคนมาจำนวนหนึ่งเท่านั้นคือ 5,000 คนใน 17 ประเทศทั่วโลก ผลลัพธ์ใน Mainstream อาจจะไม่ได้ตายตัว
อย่างไรก็ตามตัวเลขพวกนี้ทำให้รู้ว่าตอนนี้การลงทุนใน Bitcoin กลายมาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในใจของคนแล้ว ซึ่งก็ส่งผลดีต่อเครือข่าย ทำให้ Bitcoin เติบโตขึ้น
โควิด-19 เปลี่ยนมุมมองผู้คน
ผลกระทบอีกอย่างหนึ่งของโรคระบาดไวรัสโคโรน่าคือคนตกงาน อัตราการว่างงานของชาวสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 15% ในเดือนเมษายนซึ่ง Millennials เป็นกลุ่มที่ว่างงานมากที่สุด เทียบกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.5%
มุมมองของผู้คนต่อ Bitcoin ก็ได้เปลี่ยนไปเช่นกัน คนเริ่มหันไปเชื่อมั่นใน Bitcoin มากกว่าธนาคารแล้ว โรคโควิด-19 ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผลักให้คนเข้ามาในอุตสาหกรรม Cryptocurrency แทนตลาดดั้งเดิม (Traditional Market)
อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจนำมาวิเคราะห์ได้ว่าคนเริ่มเดินออกมาจากจุด Comfort Zone เดิมที่พวกเขาคิดว่าการลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือตลาดอื่นๆแบบดั้งเดิมนั้นเพียงพอแล้ว
มาวันนี้ความคิดเหล่านั้นเปลี่ยนไป คนเริ่มไม่เชื่อมั่นรัฐบาลหลังเห็นวิธีการรับมือและแก้ปัญหาของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ทำให้คนเริ่มหวาดกลัวเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ผู้คนจึงมองหาสินทรัพย์อื่นที่ดูมีความปลอดภัยมากกว่า ซึ่ง Bitcoin ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาเลือก