การลงทุน

อุตสาหกรรมคริปโตใน UK เริ่มมีความหวังกฎระเบียบเหรียญ Stablecoin ที่ชัดเจนมากขึ้น

As Uk Union Jack.jpg

กระทรวงการคลังของ UK ประกาศว่าจะควบคุมเหรียญ Stablecoin ภายใต้กรอบการชำระเงิน และทำให้อุตสาหกรรมคริปโตเริ่มมีความหวังว่ากฎระเบียบจะมีความชัดเจนมากขึ้น

อุตสาหกรรมคริปโตของสหราชอาณาจักรมีความหวังว่ากฎระเบียบเกี่ยวกับเหรียญ Stablecoin ที่กำลังจะมีขึ้นจะช่วยขจัด “พื้นที่สีเทา” สำหรับผู้ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลได้

เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว กระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรประกาศว่าจะควบคุม stablecoin ภายใต้กรอบการชำระเงิน ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกจากกระบวนการทั้งหมด เพื่อสร้างระบบการกำกับดูแลคริปโตที่แข็งแกร่ง ซึ่งหมายความว่าผู้ออกเหรียญ Stablecoin จะต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านการบริการชำระเงินปี 2017 ท่ีกำหนดให้พวกเขาต้องลงทะเบียนกับ Financial Conduct Authority (FCA) และปฏิบัติตามกฎระเบียบในการให้บริการชำระเงิน รวมไปถึงปฏิบัติตามข้อกำหนดเฉพาะสำหรับธุรกรรมการชำระเงินด้วย

Kene Ezeji-Okoye ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Millicent บริษัทที่ให้บริการ stablecoin ของสหราชอาณาจักรมองว่าความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อาจทำให้มีการกำจัด “พื้นที่สีเทา” ชัดเจนขึ้น แต่บริษัทอย่าง Millicent จะสามารถปฏิบัติตามกฎหมายของสหราชอาณาจักรได้อย่างไร เพราะโมเดลของบริษัทนั้นเหมาะสมกับระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ FCA แต่เนื่องจากบริษัทยังมีแผนที่จะดูแล cryptographic key ของผู้ใช้ด้วย และด้วยเหตุนี้ Millicent จึงสามารถจัดเป็นบริษัทสินทรัพย์คริปโตได้ด้วยเช่นกัน

ความเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี

หลายบริษัทพอใจกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลอังกฤษในการที่จะเป็นศูนย์กลางคริปโต โดยโฆษกของ Gemini เว็บเทรดคริปโตชื่อดังได้ก็กล่าวในแถลงการณ์ในทำนองเดียวกัน นอกจากนี้โฆษกของบริษัท Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT ก็กล่าวว่าสหราชอาณาจักรอาจกลายเป็น “หนึ่งในประเทศแรก ๆ” ที่ออกกฎระเบียบที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้

Simon Cohen ผู้จัดการร่วมของ Ontier LLP บริษัทกฎหมายด้านคริปโตในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า

“เราขอชื่นชม Rishi Sunak รัฐมนตรีอังกฤษกระทรวงการคลัง สำหรับการตระหนักถึงความสำคัญของกฎระเบียบที่เข้มงวดในพื้นที่สกุลเงินดิจิทัล” 

หน่วยงานกำกับดูแลเองก็ยินดีกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ โดยเมื่อปี 2019 หน่วยงาน FCA ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับคริปโต ที่กล่าวว่าบริษัทคริปโต ที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน อาจจะต้องอยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับด้านการบริการชำระเงิน แต่ตัวโทเค็นนั้น ๆ จะไม่ถูกควบคุม การประกาศของกระทรวงการคลังนี้หมายความว่าสิ่งนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการชำระเงินคริปโต

Sarah Pritchard กรรมการบริหารตลาดของ FCA กล่าวในแถลงการณ์ว่า

“เรายินดีกับการประกาศแผนพัฒนาระบบการกำกับดูแลใหม่สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ stablecoin และคริปโต โดยเราจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลต่อไป ก่อนที่จะมีการปรึกษาหารือ” 

นอกจากนี้ Pritchard ยังกล่าวถึงเรื่องที่ว่ารัฐบาลจะหารือเกี่ยวกับการจำกัดความสินทรัพย์คริปโตด้วยกฎระเบียบที่กว้างขึ้นในปลายปีนี้

Stablecoins และสหราชอาณาจักร

กระทรวงการคลังเปิดเผยถึงผลลัพธ์จากการปรึกษาหารือในปี 2021 เกี่ยวกับเหรียญ Stablecoin ควบคู่ไปกับการประกาศเกี่ยวกับ Stablecoin เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว โดยในรายงานระบุว่ามีข้อตกลงกว้าง ๆ ว่า Stablecoin ที่ได้รับการสนับสนุนจากสกุลเงินยูโรควรอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของกฎระเบียบการเงินอิเล็กทรอนิกส์ แม้จะยอมรับว่าธุรกิจบางรูปแบบนั้นไม่สามารถตอบสนองต่อ Stablecoin ได้

ดังนั้นกระทรวงการคลังไม่เพียงแต่ต้องแก้ไขกฎระเบียบการชำระเงินที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการแก้ไขกฎระเบียบด้านการเงินอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2011 เพื่อคำนึงถึง Stablecoin ด้วย จากการแก้ไขนี้จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทต่าง ๆ ได้จดทะเบียนกับ FCA แล้ว และจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการเก็บบันทึกและความมั่นคงปลอดภัย

Alpay Soytürk หัวหน้าเจ้าหน้าที่กำกับดูแลของ Spectrum Markets หรือสถานที่ซื้อขาย securitized derivatives ในทวีปยุโรปที่มีสำนักงานอยู่ในลอนดอน โดยได้กล่าวว่า ข้อกำหนดโดยละเอียดสำหรับ Stablecoin ยังไม่ได้ข้อสรุป และจะได้รับการพัฒนาโดยได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษและหน่วยงานกำกับดูแลระบบการชำระเงิน

มีข้อตกลงทั่วไปในรายงานการปรึกษาหารือของรัฐบาลสหราชอาณาจักรว่าผู้ออกเหรียญและกระเป๋าเงิน stablecoin ว่าควรอยู่ภายใต้กฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ตัวอย่างเช่น หากบริษัทที่ให้ความดูแลนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติการธนาคาร (Banking Act) ก็จะถือว่าบริษัทนั้นอยู่ในระบบและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA และธนาคารแห่งประเทศอังกฤษอย่างถูกต้อง

ข้อบังคับอื่น ๆ ที่ต้องแก้ไข ได้แก่ พระราชบัญญัติบริการทางการเงิน ปี 2013 (Financial Services Act) โดยพระราชบัญญัติที่แก้ไขจะมุ่งเน้นไปที่บริการทางการเงินและการตลาด

รายงานการให้คำปรึกษากล่าวว่ากฎระเบียบของสหราชอาณาจักรควรรวบรวม Stablecoin ทั้งหมดที่มีสกุลเงิน Fiat เช่น Stablecoin สกุลเงินเดียวหรือ Stablecoin ในการ backed ด้วยตะกร้าเงิน

ในการปรึกษาหารือ รัฐบาลเสนอว่าไม่ควรเข้าไปควบคุม อัลกอริทึมของ Stablecoins หรือสิ่งที่อาจเชื่อมโยงกับสินทรัพย์อื่นที่ไม่ใช้คำสั่ง

เหรียญ Stablecoins แบบ algorithmic เป็นสิ่งที่ในทางทฤษฎีแล้วสามารถผูกเงินสกุล fiat ไว้ได้โดยใช้ซอฟต์แวร์และกฎเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องมีหลักประกันใด ๆ คอยหนุนหลัง เพราะ Stablecoins นั้นสามารถควบคุมราคาได้ด้วยการใช้ อัลกอริทึ และ smart contract เท่านั้น โดยสามารถเพิ่มอุปทานได้หากราคาลดลงหรือลดอุปทานได้หากราคาเพิ่มขึ้น

Ryan Shea นักเศรษฐศาสตร์ด้านคริปโตของ Trakx ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตที่มีมีสำนักงานใหญ่ในปารีสและลอนดอน เผยว่า “สิ่งที่มันจะยากขึ้นคือเรื่องเกี่ยวกับ algorithmic stablecoins เพราะมันทำงานแบบกระจายอำนาจ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาคการธนาคารแบบดั้งเดิม”

โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องยากสำหรับผู้กำกับดูแลที่จะใช้กฎที่มีอยู่ในตอนนี้กับ algorithmic stablecoins ดังนั้นรัฐบาลสหราชอาณาจักรจึงต้องมีแผนที่จะจัดตั้งระบบการอนุญาตและการกำกับดูแล FCA สำหรับ Stablecoin ที่สามารถใช้ชำระเงินได้ โดยรายงานดังกล่าวก็ได้ระบุอยู่ในรายงานการปรึกษาหารือ

คริปโตและสหราชอาณาจักร

หน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรยังคงมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ รายงานปี 2022 ที่จะจัดทำโดย YouGov หรือกลุ่มวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งแสดงให้เห็นว่ าการนำคริปโตมาใช้ในสหราชอาณาจักรนั้นถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดคริปโตในตะวันออกกลางและเอเชียแปซิฟิก

“แม้ว่าการยอมรับคริปโตในสหราชอาณาจักรเติบโตอยู่ในช่วงระยะกลางแล้ว แต่อุปสรรคหลัก ๆ ที่ขัดขวางการเติบโตนั้นก็เกิดจากความกังวลด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบ” Emma McInnes หัวหน้าฝ่ายบริการทางการเงินระดับโลกของ YouGov ให้สัมภาษณ์ว่า “เมื่อเร็ว ๆ ก็ได้มีประกาศ จากรัฐบาลสหราชอาณาจักรด้าน กฎระเบียบของธุรกิจเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโต คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสิ่งเหล่านี้จะเพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในการบรรเทาข้อกังวลเหล่านี้หรือไม่”

McInnes กล่าวว่า

“ที่จริงแล้ว เราได้เห็นบริษัทบางแห่งย้ายการดำเนินการบริการคริปโต จากสหราชอาณาจักรไปยังตลาดอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะยังสามารถให้บริการ คริปโตแก่ชาวอังกฤษต่อไปได้ แต่ก็เป็นการบริการที่อยู่นอกระบบการกำกับดูแลใหม่ของสหราชอาณาจักร” 

ยังขาดเรื่องใดอยู่?

จากการประกาศล่าสุดของสหราชอาณาจักรยังคงขาดความชัดเจน ทำให้ชุมชนคริปโตต่างก็ต้องการความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินงานภายในประเทศ

การตอบสนองต่อการปรึกษาหารือล่าสุด กระทรวงการคลังกล่าวว่า กรอบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์คริปโตและการจัดหมวดหมู่ควรได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่น เนื่องจากคำจำกัดความแบบคงที่อาจ ทำให้เกิดความ "ล้าสมัย" ได้อย่างรวดเร็ว

Ezeji-Okoye กล่าวว่า

“เรากำลังรอดูว่าสหราชอาณาจักรจะกำหนดคำจำกัดความของ Stablecoin อย่างไร และ Stablecoin เหรียญใดที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้สำหรับการชำระเงิน เนื่องจากภายใต้ระบบในปัจจุบัน บาง Stablecoin ที่เราใช้อยู่ภายใต้ กฎระเบียบการเงินอิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถนำมาใช้สำหรับการชำระเงินได้แล้ว” 

รัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวในผลการปรึกษาหารือว่า กำลังพิจารณาว่าควรมีการจำกัดความใหม่สำหรับ “การชำระเงินสินทรัพย์คริปโต” หรือไม่ ซึ่งรวมไปถึงการแสดงมูลค่าเงินในรูปแบบดิจิทัลที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยคริปโต ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสกุลเงิน fiat อย่างน้อยหนึ่งสกุลเงิน และ/หรือการออกและการใช้เป็นช่องทางในการชำระเงิน

Ian Taylor กรรมการบริหารของ CryptoUK หรือหน่วยงานการค้ากล่าวใน บทสัมภาษณ์กับ CoinDesk ว่า

“จุดสนใจหลักสำหรับเราคือต้องแน่ใจว่า หากเราได้ข้อสรุปด้วยการจำกัดความที่กว้างเกินกว่าโดยปกติ อาจทำให้ผู้คนในสหราชอาณาจักรสับสนได้” 

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ 

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC