ทรัมป์อาจจะกำลังสนับสนุน Cryptocurrency โดยไม่รู้ตัว!?
แม้ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รายนี้จะไม่ค่อยถูกใจสกุลเงินดิจิทัลสักเท่าไหร่ แต่ทว่าข้อเสนอล่าสุดของเขาในการลดภาษีเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งยวดสำหรับเหล่านักลงทุน Crypto เพราะมันสามารถเพิ่มผลกำไรจากการลงทุนได้
แม้ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รายนี้จะไม่ค่อยถูกใจสกุลเงินดิจิทัลสักเท่าไหร่ แต่ทว่าข้อเสนอล่าสุดของเขาในการลดภาษีเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งยวดสำหรับเหล่านักลงทุน Crypto เพราะมันสามารถเพิ่มผลกำไรจากการลงทุนได้
การลดภาษีกำไรจากเงินลงทุน (Capital Gains Tax : CGT) ที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาอาจจะกลายเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ หรือไม่ก็เป็นชัยชนะก้าวเล็ก ๆ สำหรับอุตสาหกรรมคริปโตหากข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติ
โดยในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาท่านประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวว่าฝ่ายบริหารของเขานั้น “จริงจังมาก” ในการพิจารณาลดภาษีกำไรจากเงินลงทุน
“ เรากำลังพิจารณาการลดภาษีเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ซึ่งจะช่วยในการสร้างงานได้มากขึ้น”
รู้จักโครงสร้างของ CGT กันเสียก่อน
ภาษี Capital Gains ของสหรัฐอเมริกานั้นถูกจัดเป็นสองประเภท นั่นก็คือ ระยะยาวและระยะสั้น โดยเส้นแบ่งระหว่างทั้งสองกลุ่ม คือระยะเวลาที่เหล่านักลงทุนถือครองสินทรัพย์นั่นเอง โดยจะดูว่าผู้ลงทุนถือครองทรัพย์สินเหล่านั้นมามากกว่า หรือน้อยกว่าหนึ่งปี
ซึ่งหากถือมาเกินหนึ่งปีแล้วขายทำกำไร จะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ในทางกลับกันถ้าถือครองไว้ไม่ถึงหนึ่งปีแล้วขายจะต้องจ่ายภาษีในอัตราสูงสุดถึง 39.6 เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่ทำได้เลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้เองเหล่านักลงทุนอเมริกันจำนวนมากจึงไม่ขายหุ้นของพวกเขาจนกว่าจะถือครบหนึ่งปี เพื่อที่จะเสียภาษี Capital Gains ในอัตราระยะยาว
การจะลดภาษีไม่ใช่เรื่องง่าย
ทุกวันนี้ก็ยังมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับความสามารถของประธานาธิบดีทรัมป์ในการที่จะทำให้ข้อเสนอแนะนี้เกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากอัตราภาษีกำไรจากเงินลงทุนในระยะยาวที่ 20% นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของสภาคองเกรส (Congress) เป็นหลัก ดังนั้นในการลดจำนวนในครั้งนี้นอกจากทรัมป์จะต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อเจรจาต่อรองแล้ว เขาอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องนำฝ่ายนิติบัญญัติอยู่เคียงข้างตลอดการเจรจา
แต่ท่านประธานาธิบดีรายนี้ก็ยังมีอีกทางเลือก นั่นคือการใช้อำนาจของผู้บริหารออกคำสั่งลดค่าภาษีในทันที่ ซึ่งการกระทำแบบนี้เรียกว่า “การทำดัชนีกำไรจากเงินทุนต่ออัตราเงินเฟ้อ (Indexing Capital Gains to Inflation)” นั่นคือจุดที่ราคาซื้อดั้งเดิมของสินทรัพย์จะถูกปรับเมื่อมีการขาย ดังนั้นจึงไม่มีการจ่ายภาษีจากการแข็งค่าที่สัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้อนั่นเอง
แต่จากการรายงานข่าวของ Bloomberg ก็ได้กล่าวกับหนทางที่ 2 นี้ว่า มันจะเป็นประโยชน์น้อยกว่าสำหรับเหล่านักลงทุน เนื่องจากผลกำไรจาก Crypto สามารถทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index - CPI) ดูไม่มีนัยสำคัญ
สถานะปัจจุบันของภาษีด้าน Cryptocurrencyในสหรัฐฯ
การจัดเก็บภาษีในสหรัฐฯนั้นมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก ชาวอเมริกันจะต้องรายงานทั้งผลกำไรและการขาดทุนจากธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลทุก ๆ ครั้ง ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับมันด้วยวิธีใดก็ตาม ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีผลกำไรก็ได้
สาเหตุที่ต้องรายงานขนาดนี้ก็เพราะว่า กรมสรรพากรแห่งสหรัฐอเมริกา (Internal Revenue Service – IRS) ระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นทรัพย์สิน ไม่ใช่สกุลเงิน ซึ่งทำให้การไม่รายงานรายได้จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลอาจทำให้ถูกลงโทษ และต้องชำระจากภาษีย้อนหลัง
ซึ่งหากนายโดนัลด์ ทรัมป์สามารถผลักดันการลดภาษีในครั้งนี้ได้อย่างน้อยก็จะให้โอกาสเหล่านักลงทุน Crypto ในการเก็บผลกำไรเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย