General

รัฐบาลทรัมป์กำลังไล่บี้ผู้ให้บริการจากจีน โดยเฉพาะกับระบบเครือข่าย 5G

Photo 1592438224739 E5fa23538578.jpg

คณะรัฐมนตรีของทรัมป์ต้องการให้เครือข่าย 5G มีความโปร่งใสโดยปราศจากการก้าวก่ายจากรัฐบาลจีน โดยก่อตั้งโครงการ Clean Network program เพื่อปกป้องวิกฤตด้านโทรคมนาคม

Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเปิดตัวการขยายโครงการ the Clean Network program โดยวางแนวทางป้องกันทั้งหมดใหม่ เป็นจำนวน 5 แนวทาง เพื่อปกป้องวิกฤตด้านโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีของชาวอเมริกันจากบริษัทรัฐวิสาหกิจที่ไม่น่าไว้วางใจจากประเทศจีนอย่าง Huawei และ ZTE

โครงการ the Clean Network program เป็นโครงการริเริ่มล่าสุดในการเปิดศึกระหว่างคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ต่อการรุกรานด้านเทคโนโลยีจากประเทศจีน แนวทางทั้ง 5 ประการมีจุดประสงค์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องข้อมูลต่าง ๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกาจากการโจมตี และการรุกรานอย่างเกรี้ยวกราดโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese Communist Party - CCP) ผ่านตัวแทนจากภาครัฐวิสาหกิจ

สงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนกำลังปะทุ

คณะรัฐมนตรีของทรัมป์ทำการสืบสวนบริษัทเทคโนโลยีและวิธีการดำเนินการการให้บริการของบริษัทจากประเทศจีนในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญไว้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย TikTok แอปโซเชียลมีเดียของจีนได้ถูกตำหนิจากการถูกกล่าวหาว่ามีการแชร์ข้อมูลกับพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ซึ่งบริษัทแม่อย่าง ByteDance.Ltd ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อหาดังกล่าว

ปัจจุบันกว่า 30% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกมาจากบริษัทจัดจำหน่ายจากประเทศจีนอย่าง Huawei, Xiaomi และ Oppo โดยบริษัทผลิตเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบันนั้นกำลังเพลิดเพลินไปกับความสามารถในการเปิดระบบนิเวศทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ใช้งานทั่วโลกสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เช่น Google, Instragram และ WhatsApp

The Clean Network program มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำการล้างระบบการสื่อสาร การควบคุม การคำนวณ หรือการจัดเก็บอุปกรณ์จากบริษัทจัดจำหน่ายอุปกรณ์ IT ที่ไม่น่าเชื่อถืออย่าง Huawei และ ZTE ซึ่งนาย Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวการต่างประเทศยืนยันว่าหน่วยงานเหล่านี้ “จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน”

The Clean Network program เป็นการขยายมาตรฐานความน่าเชื่อถือทางดิจิทัลและได้สร้างความน่าเชื่อถือดังกล่าวตามแนวทาง 5G Clean Path ซึ่งเป็นการร่วมมือของกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันและบริษัทที่มีจุดมุ่งหมายในการรักษาความปลอดภัยระบบโทรคมนาคม, Cloud, ระบบวิเคราะห์ข้อมูล, แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ, Internet of Things (IoT), และเทคโนโลยี 5G จากผู้ให้บริการตัวร้าย

จากการประกาศเมื่อวันที่ 29 เมษายน ปี 2020 เกี่ยวกับแนวทาง the 5G Clean Path ระบุว่าจะพึ่งพาเครือข่ายโทรคมนาคมที่เชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งต้องเป็นบริษัทจัดจำหน่ายที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของความอยุติธรรมหรือถูกควบคุมด้วยกฏหมายจากทางหน่วยงานรัฐบาลโดยเฉพาะจากประเทศจีน

ในขณะเดียวกัน Huawei ได้ถูกจำกัดการเข้าถึงบริการหลักของ Google ซึ่งทำให้ยอดขายโทรศัพท์ทั่วโลกตกลงไปอย่างมากและในอนาคตบริษัทโทรคมนาคมต่าง ๆ ของจีนก็จะประสบกับความล้มเหลวในลักษณะเดียวกันกับ Huawei หาก the Clean Network ถูกนำไปประยุกต์ใช้ ซึ่งจะเป็นไปได้มากในขั้นตอนนี้

ผลตอบรับจากกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมระบุว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อจำกัดของสหรัฐที่มีต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีนและทำการยกเลิกมาตรการของสหรัฐฯ เพื่อรักษาอำนาจทางเทคโนโลยีของตนเองเอาไว้

จุดมุ่งหมาย 5 แนวทาง

แนวทางใหม่ของความพยายามทั้ง 5 ประการสำหรับ the Clean Network จะดำเนินการถอดกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศจีน, แอปพลิเคชัน, Cloud, Cable และบริการจัดเก็บข้อมูลออกจากเครือข่าย 5G ของประเทศสหรัฐอเมริกา

ในขณะที่โครงการ the Clean Network กำลังมุ่งเป้าไปที่การปกป้องข้อมูลของประเทศสหรัฐฯ ซึ่งแนวทางของโครงการนี้กำลังก้าวหน้าขึ้นไปทีละขั้น มากกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ที่เป็นประเทศเสรีและบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ทั่วโลกก็เป็น Clean Telcos แล้ว ทุก ๆ ฝ่ายมุ่งมั่นที่จะใช้บริการผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ในระบบ Clean Networks นี้

ด้วยความกระตือรือร้นที่เพิ่มขึ้นในการปิดกั้นข้อมูลที่เป็นอันตรายและการขโมย IP รวมถึงความไม่ไว้วางใจพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เพิ่มขึ้น เมื่อแนวคิดนี้มีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่โดยจะสร้างความเสียหายให้กับการขายและการบริการทั่วโลกของบริษัทเทคโนโลยีประเทศจีนอย่างแน่นอน

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่พร้อมรับข่าวร้าย! นักเทรดคริปโตถูกล้างพอร์ตมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ครั้งแรก! Bitcoin-Ethereum ETF จาก Hashdex และ Franklin Templeton ได้รับอนุมัติพร้อมกัน
Quantum BioPharma ทุ่ม $1 ล้านดอลลาร์ใน Bitcoin และคริปโต หวังกระจายความเสี่ยงป้องกันเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์เผย! Ethereum อาจร่วงแตะ 3,000 ดอลลาร์ หากแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป