อนาคตของวงการคริปโตในสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไรหลัง Donald Trump มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
หลายสำนักข่าวชั้นนำ รวมถึง The Hill และ Decision Desk HQ ได้ประกาศให้ Trump เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หลังจากที่เขาสามารถคว้าชัยชนะในรัฐสำคัญอย่างนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐที่เขาเคยพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2020
หลายสำนักข่าวชั้นนำ รวมถึง The Hill และ Decision Desk HQ ได้ประกาศให้ Trump เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หลังจากที่เขาสามารถคว้าชัยชนะในรัฐสำคัญอย่างนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐที่เขาเคยพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2020
The New York Times คาดการณ์ว่า Trump จะได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งถึง 306 คะแนน โดยมีโอกาสชนะมากกว่า 95% ในขณะที่ CNN รายงานว่า Trump "ใกล้จะคว้าชัยชนะ" ขณะที่อดีตประธานาธิบดีและว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้สนับสนุนในรัฐฟลอริดา
ณ เวลาที่รายงานข่าวนี้ Associated Press รายงานว่า Trump มีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 267 เสียง ขาดเพียง 3 เสียงจาก 270 เสียงที่จำเป็นต้องได้รับเพื่อก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี
คู่แข่งหลักของเขา รองประธานาธิบดี Kamala Harris ตามหลังในรัฐสำคัญที่มีผลต่อการชี้ขาด (swing states) อย่างเพนซิลเวเนีย วิสคอนซิน และมิชิแกน
ระหว่างการรณรงค์หาเสียงตลอดปีที่ผ่านมา Trump ได้ให้คำมั่นสัญญาหลายอย่างต่อชุมชนคริปโต โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
1. การปลด Gary Gensler ประธาน SEC คนปัจจุบัน
Trump สัญญาว่าจะปลด Gensler ออกจากตำแหน่งในวันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา Gensler ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี Joe Biden ในปี 2021 โดยเขาที่มีผลงานการฟ้องร้อบริษัทและโครงการที่เกียวข้องคริปโตเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น Coinbase, Uniswap, และ Consensys บริษัทผู้พัฒนา MetaMask
วาระของ Gensler จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2025 ซึ่ง Trump สามารถแทนที่ด้วยคนที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมคริปโตมากกว่า
2. ปล่อยตัว Ross Ulbricht
Ulbricht เป็นผู้สร้าง Silk Road เว็บไซต์ตลาดมืดที่อนุญาตให้ผู้ใช้ขายสินค้าผิดกฎหมายโดยแลกกับ Bitcoin มียอดขายรวมประมาณ 230 ล้านดอลลาร์ตลอดอายุการใช้งาน Ulbricht ถูกจับกุมในปี 2013 และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตสองครั้งบวกอีก 40 ปี
Trump อาจลดโทษเป็นระยะเวลาที่จำคุกมาแล้ว ซึ่งอาจทำให้เขาได้รับอิสรภาพในทันที หรืออาจลดโทษให้เหลือน้อยกว่าจำคุกตลอดชีวิต
3. สนับสนุนการขุด Bitcoin ในสหรัฐฯ
Trump กล่าวในงานประชุม Bitcoin ประจำปี 2024 ว่าต้องการให้ "Bitcoin ที่เหลือทั้งหมดถูกผลิตในสหรัฐฯ" นโยบายนี้อาจช่วยป้องกันกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่จะมาจำกัดการ Bitcoin ภายในประเทศ แม้จะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน แต่ท่าทีสนับสนุนนี้ถูกมองว่าเป็นบวกต่อตลาด
Samson Mow CEO ของบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน Jan3 เชื่อว่านโยบายนี้จะ "ผลักดันทุกอย่างให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น"
4. การสร้างคลังสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์
โดยเขาสั่งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายไม่ให้ขาย Bitcoin ที่ยึดมาได้จากองค์กรอาชญากรรมไว้ทั้งหมด และจะไม่มีการขายแม้แต่ 1 BTC ผู้สนับสนุนนโยบายนี้เชื่อว่า Bitcoin จะเป็นสินทรัพย์สำรองที่สำคัญ และการถือครองมันในที่สุดจะช่วยให้สหรัฐฯ ชำระหนี้สาธารณะทั้งหมดได้
Cynthia Lummis วุฒิสมาชิก จากรัฐไวโอมิง ซึ่งมักถูกมองว่าสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซี ได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อสร้างเงินสำรองดังกล่าวแล้วในเดือนกรกฎาคม แต่จนถึงปัจจุบัน ร่างกฎหมายก็ยังคงไม่ผ่าน
5. ป้องกันการสร้าง CBDC ภายในสหรัฐฯ
เขาให้คำมั่นว่าจะไม่ให้มีการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) หรือระบบชำระเงินผ่านบล็อกเชนที่ดำเนินการโดยรัฐบาลขึ้นในสหรัฐฯ โดย CBDC คือเทคโนโลยีบล็อกเชนที่คล้ายกับสกุลเงินดิจิทัลของเอกชน แต่เครือข่ายนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
ในอุตสาหกรรมคริปโตเองก็มีความคิดเห็นแตกต่างกันว่าการมี CBDC นั้นดีหรือไม่ นักลงทุนบางรายมองว่ามันจะช่วยปรับปรุงระบบธนาคารที่ช้าและยุ่งยากให้ทันสมัยขึ้น แต่บางคนมองว่า CBDC เป็นระบบที่อาจเข้าข่ายการควบคุมที่เข้มงวดจนกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร Trump ได้ให้คำมั่นว่าเขาจะไม่ยอมให้มีสกุลเงิน CBDC อย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวอเมริกันทุกคนที่ต้องการรักษาความเป็นส่วนตัว
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนในวงการที่จะเชื่อมั่นในคำสัญญาเหล่านี้ Eric Vorhees ผู้ก่อตั้ง Shapeshift วิจารณ์ว่าแนวคิดการผลิต Bitcoin ทั้งหมดในสหรัฐฯ ว่าเป็น "แนวคิดชาตินิยมและไร้เหตุผล แสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจทั้งเรื่อง Bitcoin และเศรษฐศาสตร์โดยรวม"
เหลือเพียงเวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าวาระการทำงานของว่าที่ประธานาธิบดี Trump จะสามารถทำตามสัญญาเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใด และจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ อย่างไร
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว