นายกฯ เคาะ! ข้อกำหนดผู้มีสิทธิ์ได้รับเงิน 10,000 บาทดิจิทัล - พร้อมรายละเอียดที่ควรรู้ทั้งหมด
เคาะแล้ว! นายกฯ แถลงการณ์ รายละเอียดผู้มีสิทธิ์ เข้าร่วมโครงการ 'Digital Wallet' อย่างเป็นทางการ - พร้อมเผยกำหนดการแจกเงิน
เคาะแล้ว! นายกฯ แถลงการณ์ รายละเอียดผู้มีสิทธิ์ เข้าร่วมโครงการ 'Digital Wallet' อย่างเป็นทางการ - พร้อมเผยกำหนดการแจกเงิน
Table of contents
มาติดตามกันต่อสำหรับประเด็นนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท โดยล่าสุดเมื่อเวลา 14:00 น ของวันนี้(10 พฤศจิกายน 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ โครงการดิจิทัล 10,000 บาท เพื่ออธิบายรายละเอียดทั้งหมดของโครงการดังกล่าว
เงินทุนของนโยบาย
นายเศรษฐา เผยว่า คำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้คือการออกพระราชบัญญัติ เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท ที่ใช้ในโครง ซึ่งต้องผ่านกระบวนการการตีความโดยกฤษฏีกา เพื่อให้การออก พ.ร.บ.กู้เงิน รวมถึงงบประมาณอีก 100,000 ล้านบาท ที่จะนำไปใช้ต่อยอดในอุตสาหกรรมใหม่ๆ โครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมดิจิทัล การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การพัฒนาบุคลากรและการศึกษา
ระบบที่ใช้ในโครงการ
จากประกาศเผยว่า ทางรัฐบาลจะใช้การต่อยอดระบบของแอพเป๋าตัง ซึ่งมีประชาชนลงทะเบียนอยู่แล้วถึง 40 ล้านคน และมีร้านค้ากว่า 1.8 ล้าน ใช้งานอยู่แล้ว โดยจะพัฒนาให้สามารถทำงานโดยมี Blockchain อยู่ด้านหลังเป็นโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อใช้จุดเด่นของเทคโนโลยีดังกล่าวในการป้องกันการทุจริต ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและการทำ e-Government เพื่อแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างได้ในอนาคต
ข้อกำหนดผู้มีสิทธิ์ได้รับเงิน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนจากนโยบายดังกล่าว จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุครบ 16 ปีขึ้นไป ที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากรวมกันทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งมีจำนวนประมาณ 54.8 ล้านคนในประเทศ ซึ่งผู้มีสิทธิ์จะสามารถนำเงินที่ได้รับ ไปใช้จ่ายได้ในระดับอำเภอที่มีทะเบียนบ้านอยู่ ภายในช่วงเวลา 6 เดือน หลังจากได้รับเงิน
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ร่วมกับนโยบายดังกล่าวจะ ยังยังสามารถเข้าร่วมโครงการ e-Refund ได้เพื่อรับภาษีคืนจากการจับจ่ายสินค้าและบริการรวมมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท
เงื่อนไขของการใช้จ่าย
โดยนายกได้กล่าวว่า เงินที่ได้รับ จะสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้ารถเข็น ร้านโชว์ห่วย ร้านค้าที่อยู่บนแอพเป๋าตัง ทั้งที่อยู่และไม่ได้อยู่ในระบบภาษี แต่ต้องมีการลงทะเบียนรับสิทธิ์ และร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น
โดยจะไม่สามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายได้ในกรณีดังนี้
- ไม่สามารถใช้กับบริการ
- ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์
- ไม่สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม และผลิตภัณฑ์จากกัญชาและพืชกระท่อม
- ไม่สามารถนำไปซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี
- ไม่สามารถนำไปชำระหนี้ได้
- ไม่สามารถจ่ายค่าเรียน ค่าเทอม ได้
- ไม่สามารถนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้
- แลกเป็นเงินสดไม่ได้
ใช้ได้ตอนไหน?
ทั้งนี้ทางรัฐบาลจะเริ่มให้คณะกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายภายในปลายปี 2566 และจะเข้าสู่สภาช่วงต้นปีหน้า ในระหว่างนั้นจะเริ่มเปิดใช้งานโครงการ e-Refund ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และเปิดให้ประชาชนใช้ ดิจิทัลวอลเล็จ ถายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
โดยนายเศรษฐา ได้กล่าวอีกว่า นโยบายนี้ คือการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบ เพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเจริญเติบโตต่อไปได้