Blockchain

Blockchain สัญชาติไทยจับมือ IBM ยกระดับจดหมายค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ให้ก้าวล้ำ

Photo 1450101499163 C8848c66ca85.jpg

Thailand Blockchain Community กำลังร่วมมือกับ IBM ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ รายใหญ่ของโลก ในการขยายแพลตฟอร์มการจัดทำหลักประกันทางอิเล็กทรอนิกส์มูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Thailand Blockchain Community Initiative (BCI) และ IBM ประกาศความสำเร็จในการในการขยายขอบเขต และการเข้าถึงแพลตฟอร์มการจัดทำหลักประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Letter of Guarantee Platform - eLG) ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นตัวขับเคลื่อนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจทุกขนาด โดยตั้งแต่แพลตฟอร์มดังกล่าวได้เริ่มเปิดตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา จนถึงทุกวันนี้มีมูลค่าในการดำเนินการจัดทำหลักประกันทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีจำนวนรวมเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าให้แล้ว

เวลาเป็นสิ่งสำคัญ

ในแต่ละปี มีการออกหนังสือค้ำประกันผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยให้แก่องค์กรธุรกิจเป็นมูลค่ารวมหลายแสนล้านบาท โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการค้ำประกันหากผู้ซื้อผิดสัญญา ซึ่งขั้นตอนเจรจานั้นอาจต้องใช้เวลานานถึงเก้าวัน แถมยังมีความเสี่ยงจากกรณีปลอมแปลงหนังสือเอกสารอาจส่งผลให้ผู้ขายไม่ได้รับการชดเชยหรือช่วยเหลือใด ๆ อีกด้วย

แต่ทว่าสิ่งที่แพลตฟอร์ม eLG นั้นสามารถดำเนินได้ต่างออกไป เพราะสามารถออกหนังสือค้ำประกันให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่ถึง 1 วันเท่านั้น โดยตามประกาศของบริษัทได้ระบุไว้ว่า

“แพลตฟอร์ม eLG ได้เปิดตัวในช่วงปลายปี 2019 และปัจจุบันมีมูลค่าหนังสือค้ำประกันรวมประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดเวลาในการออกหนังสือค้ำประกันให้เหลือน้อยกว่า 1 วันได้”

เพิ่มขีดความสามารถ

ดังที่ได้อธิบายไปข้างต้นว่าขั้นตอนการดำเนินการโดยทั่วไปของการออกหนังสือค้ำประกันนั้นต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการปลอมแปลงเอกสารต่าง ๆ ซึ่งทาง BCI ได้ก้าวเข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ณ ปัจจุบันมีธนาคาร 22 แห่ง และบริษัทอีก 15 แห่งได้ทำการใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวในการประมูลระดับองค์กร, การรับรองการชำระเงิน และขั้นตอนการซื้อขายภายในประเทศลักษณะอื่น ๆ จึงเป็นที่แน่ชัดว่าแพลตฟอร์ม eLG สามารถจัดการกับปัญหาเดิม ๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมได้อย่างแน่นอน

และด้วยการร่วมมือครั้งใหม่นี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบต่าง ๆ มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การกู้คืนระบบ และความพร้อมในการเปิดให้บริการในหลากหลายพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ รวมไปถึงการยกระดับเครือข่ายให้รองรับบริการจากผู้ให้บริการ Cloud ที่หลากหลาย และเหล่าเวนเดอร์หลายราย (Multi-vendor)  อีกด้วย

ต้นทุนธุรกรรมลดลงกว่า 200%

ตามรายงานระบุว่าแพลตฟอร์ม eLG ถูกออกแบบมาเพื่อลดโอกาสในการฉ้อโกง และข้อผิดพลาดของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเห็นได้ว่า

“บริษัทสมาชิกบางรายรายงานว่าเกิดการลดของอัตราต้นทุนธุรกรรมลงถึง 200%”

BCIเล็งเห็นหนังสือค้ำประกันเป็นเพียงบริการแรกที่ถูกนำเสนอโดยแพลตฟอร์ม Blockchain อย่าง eLG เท่านั้น เนื่องจากทางองค์กรมีกำหนดการณ์จะเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยสาเหตุที่ทางองค์กรดำเนินการให้สอดคล้องกับโรดแมปของโมเดลการใช้งานแบบไฮบริดที่จะขยายสู่ตลาดต่างประเทศในอนาคต โดยนายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ประธานบอร์ด BCI กล่าวว่า

Silawat Santivisat 1024x834.jpg
ศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ประธานบอร์ด BCI
“Blockchain คือกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเชื่อมต่อของแพลตฟอร์มของอุตสาหกรรมหลากหลายแห่ง โดย Blockchain ช่วยทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้กลับมาคิดทบทวนถึงขั้นตอนการดำเนินงาน และความไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ซึ่งหากร่วมมือกับพันธมิตรที่คู่ควร และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มอบความสามารถในการขยายตัว, ความปลอดภัย และความสามารถในการใช้ Cloud ได้หลากหลายระบบ จะช่วยส่งเสริมให้เครือข่ายเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อม และภูมิภาคต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน”
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bybit กลับมาดำเนินการถอนเงินได้ตามปกติ หลังถูกแฮกมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
บราซิลอนุมัติ Spot XRP ETF เป็นครั้งแรก! ขณะธนาคารท้องถิ่นเตรียมเปิดตัว StableCoin บน XRPL
นักวิเคราะห์ เผย! การรับรองคำขอ Spot XRP ETF ของ SEC อาจเร่งให้ XRP พุ่งแตะ $6
นักวิเคราะห์คว้ารางวัลจาก Arkham หลังเป็นผู้ที่่ระบุว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์