บริษัท T-Mobile มองหาทางป้องกันข้อมูลผู้บริโภค 100 ล้านคนจากการถูกแฮ็ก
บริษัท T-Mobile ตอนนี้เริ่มเอาจริงกับการวางมาตรการป้องกันการแอ็กที่เกิดขึ้นในเวลานี้
บริษัท T-Mobile ตอนนี้เริ่มเอาจริงกับการวางมาตรการป้องกันการแอ็กที่เกิดขึ้นในเวลานี้
T-Mobile บริษัททางด้านโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกากำลังมองหาแนวทางในการปกป้องฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนด้วยกัน
บริษัท T-Mobile หาทางรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแฮ็ก
โดย T-Mobile กำลังหาทางที่จะยับยั้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ซึ่งรายงานที่ผ่านมาได้กล่าวว่า เหล่าแฮ็กเกอร์ได้อ้างว่า พวกเขาได้ทำการเจาะข้อมูลผู้บริโภคจากเซิร์ฟเวอร์ของ T-Mobile กว่า 100 ล้านคนด้วยกัน
โดยเฉพาะตัว Motherboard นั้น ถือเป็นตัวอย่างข้อมูลที่ประกอบไปด้วยหมายเลขประกันสังคม, เบอร์โทรศัพท์, ชื่อ, ที่อยู่ที่พำนักอาศัย, หมายเลข unique IMEI และข้อมูลในใบขับขี่
โดยผู้ขายข้อมูลบอกว่า พวกเขาได้ขายข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก แต่ยังคงกำข้อมูลผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านคนไว้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขประกันสังคมและใบขับขี่เพื่อเรียกค่าไถ่ด้วยบิทคอยน์
ซึ่งตอนนี้ T-Mobile ที่ได้ออกมาเตือนและเริ่มตอบสนองเกี่ยวกับการละเมิดใช้ข้อมูล ซึ่งตัวแฮ็กเกอร์ได้กล่าวว่า เขาคิดว่าพวกเขาคงรู้ตัวแล้ว เพราะพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์หลังบ้านได้
การแฮ็กครั้งนี้ไม่ใช่คริปโต แฮ็กครั้งแรกที่เกิดขึ้น
เรื่องนี้ทางด้านโฆษกของ T-Mobile ได้กล่าวว่า บริษัทได้ตระหนักถึงข้อกล่าวอ้างของแฮ็กเกอร์ที่ได้ดำเนินการใต้ดินและทางบริษัทก็ได้เดินหน้าสืบสวนตัวตนของพวกเขา โดยไม่ได้มีนโยบายการแชร์ข้อมูลใด ๆ ในช่วงเวลานี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ T-Mobile เจอกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทมือถือเองเจอกับการฟ้องร้องโดยผู้ได้รับความเสียหายจากการลงทุนในบิทคอยน์ $450,000 กรณีการแฮ็กด้วยการสับเปลี่ยนซิมโทรศัพท์หรือ SIM-swap
การโจมตีด้วยการ SIM-swap นั้นเกิดขึ้นเมื่อเหยื่อผู้ใช้โทรศัพท์ถูกขโมยหมายเลขไป แล้วจากนั้นก็จะมีการใช้เบอร์โทรศัพท์เข้าบัญชีทางการเงินหรือโซเชียลมีเดีย โดยจะมีการปิดกั้นการส่งข้อความอัตโนมัติหรือปิดกั้นการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้นเอาไว้
ซึ่ง Calvin Cheng หนึ่งในผู้ได้รับความเสียหายได้กล่าวหา T-Mobile ว่า ไม่มีความสามารถในการป้องกันการเข้าถึงบัญชีของผู้บริโภคโดยไม่ได้รับอนุญาตได้และถูกฟ้องร้องในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะ SIM-swaps ที่เกิดขึ้นหลายเคส ซึ่งทำให้สูญเสียสินทรัพย์ไปกว่า 8.7 ล้านดอลลาร์