ข่าว Ethereum

Ethereum เปิดตัว testnet สอนผู้ใช้งานย้ายไปเครือข่ายใหม่ก่อนใช้จริง

Eth 1.jpg

ก่อนการเปิดตัว Ethereum 2.0 มาจริง ๆ นักพัฒนา ETH 2.0 ได้สร้าง testnet ให้ผู้ใช้ทดสอบระบบโดยจะรัน testnet นี้แค่ 3 วัน

การอัปเกรดระบบของ Ethereum ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง รายงานล่าสุดเปิดเผยว่านักพัฒนา Ethereum 2.0 ได้มีการเปิดเครือข่ายทดสอบ Testnet อีกครั้งคราวนี้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำการ Stake ได้ก่อนการเปิดตัวเครือข่าย Ethereum 2.0 จริง

เครือข่ายทดสอบ Spadina

เครือข่ายทดสอบหรือ Testnet ดังกล่าวเรียกว่า Spadina ได้มีการเปิดตัวตามหลังเครือข่ายทดสอบ Medalla มาติด ๆ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตามเครือข่าย Spadina จะเปิดใช้งานในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเพื่อให้ผู้ใช้งานที่สนใจลองฝึกฝนการเข้าร่วมเครือข่ายกับ Testnet

คุณ Danny Ryan นักวิจัยของ Ethereum Foundation กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการสร้างเครือข่ายทดสอบ Spadina ไว้ว่าต้องการให้ผู้ใช้งานทดลองการ Stake ก่อนมีการเปิดใช้งานจริง

“วัตถุประสงค์หลักคือให้เรามีโอกาสทดสอบการใช้งานทั้งส่วนที่ยากและเสี่ยงมาก [...] ก่อนที่เราจะมีการใช้งานเครือข่าย mainnet หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ควรทำให้เราสบายใจมากขึ้นก่อนที่เราจะใช้งานจริง ๆ ปลายปีนี้”

การเปิดตัว Ethereum 2.0 จะเป็น Blockchain ที่มีระบบแบบ Proof-of-Stake (PoS) ใช้งานได้เต็มรูปแบบแทนที่ระบบ Proof-of-Work (PoW) ซึ่งยังไม่ได้ระบุวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะก่อนสิ้นปี 2020

Testnets

เครือข่ายทดสอบซึ่งเปิดตัวเพื่อทดลองรันระบบในแต่ละส่วนของ Ethereum 2.0 นั้นเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2019

ซอฟต์แวร์ Ethereum 2.0 จะมีทีมงานที่ดูแลแยกกัน 5 ทีมซึ่งได้ตั้งโปรแกรมข้อกำหนดกลางเดียวกันในภาษาคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกัน การเขียนและพัฒนาภาษาเหล่านั้นเป็นอุปสรรคหลักในการปรับใช้เครือข่ายทำให้ยังไม่สามารถใช้งาน Ethereum 2.0 ได้

Medalla เป็น testnet ตัวแรกของ Eth 2.0 เฟส 0 ซึ่งจะมีการใช้ PoS หลังจากได้มีการทดสอบครบ 3 เฟสแล้ว

โดยขั้นเฟส 0 นี้ประกอบด้วย Beacon chain ซึ่งเป็นเครือข่ายประสานงานกลางของเครือข่าย Eth 2.0 เมื่อนักลงทุน Ethereum ฝาก ETH ไว้ในสัญญาการฝากเงินของ Blockchain ใหม่แล้ว Beacon chain ก็สามารถเริ่มตรวจสอบธุรกรรมได้

ลักษณะการทำงานของระบบฝากเหรียญมันคล้าย ๆ กับเป็นสกินในเกมสำหรับผู้ที่เข้าร่วมบล็อกเชนใหม่ บรรดา Staker (ผู้ที่เข้าร่วมเครือข่าย Ethereum 2.0 แล้วนำเหรียญมาฝากบนเครือข่ายเป็นหลักประกันในการตรวจสอบธุรกรรม) จะทำการตรวจสอบการทำธุรกรรมและจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ Ethereum เป็นการตอบแทน เงินฝาก Ether อาจถูกริบได้ในกรณีที่ผู้เข้าร่วมเครือข่าย (Staker) ตรวจสอบธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง

กระนั้นกระบวนการย้าย ETH จากบล็อกเชนหนึ่งไปยังอีกบล็อกหนึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน ดังนั้นนักพัฒนา ETH 2.0 จึงสร้างระบบ Testnet อื่นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมฝึกฝนการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังเครือข่าย Beacon chain

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความหวัง “Santa Claus Rally” ของ Bitcoin เริ่มริบหรี่ หลังราคาทำจุดต่ำสุดในเดือนธันวาคม
Quantum BioPharma ทุ่ม $1 ล้านดอลลาร์ใน Bitcoin และคริปโต หวังกระจายความเสี่ยงป้องกันเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์เผย! Ethereum อาจร่วงแตะ 3,000 ดอลลาร์ หากแนวโน้มขาลงยังคงดำเนินต่อไป
Bitcoin เผชิญการปรับฐานครั้งใหญ่เป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่ชัยชนะในการเลือกตั้งของ Trump