ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ย้ำ ‘ยังไม่พิจารณา’ การถือครอง Bitcoin เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ย้ำ ‘ยังไม่พิจารณา’ การถือครอง Bitcoin เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่ายังไม่มีการหารือหรือพิจารณาเกี่ยวกับการถือครอง Bitcoin เป็นทุนสำรอง แม้ว่าจะมีข้อเรียกร้องจากฝ่ายนิติบัญญัติและกลุ่มล็อบบี้ในอุตสาหกรรมคริปโตให้ดำเนินการดังกล่าว

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Bank of Korea) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ยังไม่มีการหารือหรือพิจารณา ถึงความเป็นไปได้ในการถือครอง Bitcoin เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง

ตามข้อมูลจากสำนักข่าว Korea Herald คำแถลงดังกล่าวเป็นการตอบกลับข้อซักถามจาก Cha Gyu-geun สมาชิกสภานิติบัญญัติจากคณะกรรมาธิการวางแผนและการเงินของสภาแห่งชาติ โดยธนาคารกลางเน้นย้ำว่า “จำเป็นต้องใช้แนวทางที่ระมัดระวัง” ต่อการตัดสินใจเรื่องนี้

“Bitcoin มีความผันผวนของราคาสูงมาก” ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุ พร้อมเสริมว่า “หากตลาดคริปโตเผชิญความผันผวนสูง ค่าธรรมเนียมการแปลง Bitcoin เป็นเงินสดอาจเพิ่มขึ้นอย่างมาก”

ข้อมูลจากสำนักข่าวภายในประเทศ ( ที่มา : Korea Herald )
ข้อมูลจากสำนักข่าวภายในประเทศ ( ที่มา : Korea Herald )

Bitcoin กับบทบาทในระบบการเงินโลก

แถลงการณ์ของธนาคารกลางมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลหลายประเทศเริ่มพิจารณาบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในนโยบายการเงินระดับประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ออกคำสั่งพิเศษให้สหรัฐฯ จัดตั้งทุนสำรอง Bitcoin และคลังสินทรัพย์ดิจิทัลระดับชาติเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ในเกาหลีใต้เอง การอภิปรายเกี่ยวกับบทบาทของ Bitcoin ในระบบเศรษฐกิจก็กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม กลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมคริปโตและสมาชิกพรรคประชาธิปไตยของเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาการบรรจุ Bitcoin ในทุนสำรองของประเทศ รวมถึงการพัฒนาเหรียญ Stablecoin ที่มีมูลค่าคงที่อิงกับสกุลเงินวอน (KRW-backed stablecoin)

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเกาหลีใต้เน้นย้ำว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของประเทศจำเป็นต้องมีสภาพคล่องสูง สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อต้องการ และต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถใช้ลงทุนได้ (Investment-Grade) ซึ่ง Bitcoin ไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวในมุมมองของธนาคารกลางเกาหลีใต้

มุมมองของนักวิชาการ

ศาสตราจารย์ Yang Jun-seok จากมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งเกาหลีเห็นด้วยกับธนาคารกลาง โดยระบุว่า "ทุนสำรองระหว่างประเทศควรถูกถือครองในสัดส่วนที่สอดคล้องกับสกุลเงินของประเทศที่เราทำการค้าด้วย"

ด้าน ศาสตราจารย์ Kang Tae-soo จาก KAIST Graduate School of Finance แสดงความคิดเห็นว่า สหรัฐฯ มีแนวโน้มจะใช้ Stablecoin เป็นเครื่องมือรักษาความเป็นมหาอำนาจของดอลลาร์ มากกว่าการใช้ Bitcoin พร้อมเสริมว่า “สิ่งสำคัญคือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะยอมรับ Stablecoin เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศหรือไม่”

แนวโน้มกฎหมายคริปโตในเกาหลีใต้

เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ได้ศึกษาแนวทางกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลของสำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) ท่ามกลางกระแสการพิจารณายกเลิกการห้ามออกกองทุนคริปโต ETF ภายในประเทศ

ทั้งนี้ ท่าทีของธนาคารกลางเกาหลีใต้สะท้อนถึงความระมัดระวังในการนำ Bitcoin เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของประเทศ แม้ว่าจะมีแรงผลักดันจากภาคอุตสาหกรรมคริปโตและฝ่ายนิติบัญญัติบางกลุ่มที่ต้องการให้ประเทศก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง

เชื่อมั่นของ XRP ดิ่งลงสู่ “โซนแห่งความกลัว” แต่ Santiment ชี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการฟื้นตัว
ผู้ร่วมก่อตั้ง 21Shares มอง Bitcoin ยากจะทำสถิติซ้ำเหมือนเดือนมกราคม ปัจจัยตลาดโดยรวมกดดันแนวโน้มปีหน้า
CEO BlackRock เรียก Bitcoin ว่า “สินทรัพย์แห่งความกลัว” สะท้อนท่าทีใหม่ต่อคริปโทที่เปลี่ยนไป
รายงานจาก Glassnode เผย! ปริมาณการชำระบัญชีรายวันของคริปโตเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า หลังตลาดถูกเร่งด้วยการใช้ Leverage