Events

ชาวแอฟริกันหลายคนเริ่มกังวลว่า พวกเขาไม่สามารถถอนเงินจากกองทุนโทเคนได้

Sxqz2vfofbe.jpg

ชาวแอฟริกันหลายคนเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นกับการลงทุนในโทเคนที่อาจถอนเงินไม่ได้

กลุ่มนักลงทุนคริปโตชาวแอฟริกันเริ่มแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงทุนที่พวกเขาลงเอาไว้ในเหรียญ Fight to Fame หรือ F2F token หลังจากที่พวกเขาไม่สามารถที่จะทำการถอนเงินตรงส่วนนี้ออกมาได้

ชาวแอฟริกันหลายคนอาจไม่ถอนเงินจากโทเคนได้

โดยรายงานของสื่อนั้นได้ระบุว่า นักลงทุนหลายคนที่ได้ลงทุนในโทเคนที่สร้างขึ้นมาโดย Marius Fransman อดีตผู้นำพรรคการเมืองของแอฟริกาใต้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักแสดง, นักเขียน, นักดนตรีและผู้กำกับนั้น ล้วนแล้วมีส่วนในโครงการนี้

9pcv2mb65y8 6 1024x683.jpg

ทางด้าน Fransman มีแผนที่จะทำการสร้างโทเคนของตัวเองภายใต้ชื่อ Fight to Fame โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้โทเคนของเขาโด่งดังระดับนานาชาติ เช่นเดียวกันมีรายงานว่า โทเคนนี้มีการเปิดตัวในงานอีเว้นท์ใหญ่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตามบ่อนคาสิโนที่ต่าง ๆ และมีการเปิดมีการแลกเปลี่ยนเป็นชิพที่ใช้สำหรับการพนันได้โดยเฉพาะ

นักลงทุนเริ่มหวาดกลัวมากขึ้น

แม้ว่าจะมีหลายคนได้ถือโทเคน แต่ปัญหาต่าง ๆ ได้เริ่มขึ้นเมื่อนักลงทุนบางส่วนไม่สามารถที่จะเข้าถึงโทเคนได้ตามที่ได้มีการให้คำมั่นสัญญา โดยที่มีการรับประกันว่า จะสามารถทำการถอนทุนคืนหลังจากที่ผ่านไป 9 เดือนแล้ว แต่ทางบริษัทของ Fransman ยังคงยืนกรานกับนักลงทุนว่า พวกเขาจะได้รับเงินต้นคืนส่วนหนึ่งเท่านั้น

ดูเหมือนว่า เวลานี้ข้อตกลงทางด้านการลงทุนในโทเคน Fight to Fame จะเปลี่ยนไปเสียแล้ว ทำให้นักลงทุนต่างหวาดกลัวว่า พวกเขาไม่อาจที่จะทำการถอนทุนคืนได้อีกต่อไป ในขณะเดียวกันสื่อได้มีการระบุคำพูดของ Fransman โดยเขาได้ออกมายอมรับว่า บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาได้ โดยอ้างว่าเป็นเรื่องของโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ที่มีผลต่อการวางแผนของบริษัท

โดยเขายังคงยืนยันว่า แผนการของเขาก็คือ จะทำให้ผู้คนสามารถซื้อขายโทเคนได้อย่างเสรีหลังจากที่ได้มีการเปิดตัว ICO แล้ว

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์ชี้ Bitcoin ยังมีโอกาสพุ่งแตะจุดสูงสุดในช่วง $220,000 ถึง $330,000 แม้ราคาปัจจุบันเริ่มย่อตัว
Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $104,000 แต่ข้อมูลชี้! นักเทรดมืออาชีพยังเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น
นายกเทศมนตรีเมืองปานามาเสนอแนวคิดให้เรือที่จ่าย Bitcoin ได้รับสิทธิลัดคิวผ่านคลองปานามา
ปริมาณธุรกรรม Stablecoin พุ่งแตะ 94,000 ล้านดอลลาร์ นำโดยการชำระเงินแบบ B2B และการเชื่อมกับบัตร