ข่าว NFT

Solana ล่มรวมกัน 7 ครั้งแล้วในปีนี้

Solanaoutage.png

นับเป็นครั้งที่ 7 ของปีแล้วที่เครือข่าย Solana ล่มลง หลังจาก Bot บนเครือข่ายเพิ่มปริมาณธุรกรรมขึ้นมากว่า 4 ล้านรายการต่อวินาที ทำให้เครือข่ายล่มนาน 7 ชั่วโมง

เหตการณ์ความโกลาหลได้เริ่มต้นขึ้นในคืนวันเสาร์ที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเครือข่าย Solana ต้องประสบกับปัญหาเครือข่ายขัดข้องนานกว่า 7 ชั่วโมง หลังจาก Bot ที่ทำหน้าที่มินต์ผลงาน Non-Fungible Token (NFT) ขัดข้องจนทำให้ปริมาณธุรกรรมบนเครือข่ายมีพุ่งทะลุไปกว่า 4 ล้านรายการ ซึ่งมีความจุราว 100 กิกะบิตต่อวินาทีเลยทีเดียว ส่งผลให้โหนดตรวจสอบบนเครือข่ายยุติการพิจารณาฉันทามติลง จนทำให้ Solana ล่มลงในช่วงเวลาประมาณ 20.00 นาฬิกา และกินระยะเวลายาวนานไปจนถึงช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม ในเวลา 3.00 นาฬิกาตามเวลามาตรฐานโลก (UTC) จึงจะสามารถกู้คืนโหนดตรวจสอบให้กลับมาทำงานตามปกติได้สำเร็จนั่นเอง

Metaplex ยืนยันสาเหตุที่ทำให้ Solana ล่ม เกิดจาก Bot

ทั้งนี้ทาง Metaplex ตลาดซื้อขาย NFT เจ้าแรกบนเครือข่าย Solana ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนบัญชีทวิตเตอร์เพื่อยืนยันว่าตัวการที่มีส่วนในการขัดขวางการทำงานของเครือข่ายนั้น ก็คือ Bot เจ้าปัญหาที่ทำหน้าที่มินต์คอลเลกชัน NFT บนเครือข่าย Solana ภายใต้ชื่อ Candy Machine นั่นเอง พร้อมกันนี้ทางบริษัทยังได้เตรียมเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นเหรียญ Solana (SOL) จำนวน 0.01 SOL หรือ เทียบเท่ากับ 0.89 ดอลลาร์สหรัฐ ณ ขณะนั้น กับกระเป๋าเงินดิจิทัลที่พยายามจะทำธุรกรรมที่บกพร่องให้สำเร็จ เนื่องจากขั้นตอนที่กล่าวมานั้น มักจะเกิดขึ้นจาก Bot ที่เกิดความขัดข้องจากการพยายามที่จะมินต์ผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง

https://twitter.com/metaplex/status/1520608064155521024?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1520608064155521024%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fcointelegraph.com%2Fnews%2Fsolana-suffers-7th-outage-in-2022-as-bots-invade-the-network

ย้อนรอยเหตุการณ์ Solana ล่มในครั้งที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สำหรับปี 2022 นี้ ทาง Solana ต้องเผชิญกับปัญหาเครือข่ายขัดข้องมาแล้วกว่า 7 ครั้งด้วยกัน จะเห็นได้จากการรายงานสถานะของเครือข่าย โดยในช่วงระหว่างวันที่ 6 – 12 มกราคม ที่ผ่านมา Solana ก็เคยประสบกับปัญหาที่ทำให้เครือข่ายในบางส่วนต้องหยุดทำงานลงเป็นเวลายาวนานตั้งแต่ 8 ถึง 18 ชั่วโมงเลยทีเดียว ทางด้าน Solana เองก็ได้ออกมากล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า การประมวลผลธุรกรรมในปริมาณมากนั้นได้ทำให้ความจุของเครือข่ายลดจำนวนลงไปหลายพันรายการต่อวินาที (Transaction per second - TPS) ซึ่งมีค่าต่ำกว่า 50,000 TPS ที่ทางองค์กรได้เคยออกมาโฆษณาไว้เสียอีก

ในช่วงเวลาต่อมา เครือข่ายดังกล่าวก็ได้เกิดเหตุขัดข้องยานนานกว่า 29 ชั่วโมง ในช่วงระหว่างวันที่ 21 ถึง 22 มกราคม ขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้ ทางบริษัทค้นพบว่ามีรายการการทำธุรกรรมที่ซ้ำกันมากเกินไป ส่งผลให้เครือข่ายเกิดความขัดข้อง และยุติการทำงานบน Blockchain ไปในที่สุด

นอกจากนี้ ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน ปี 2021 Solana เคยประสบปัญหาเครือข่ายล่มครั้งใหญ่ยาวนานกว่า 17 ชั่วโมง ซึ่งทางบริษัทได้ออกมาระบุว่าสาเหตุของปัญหาในครั้งนี้นั้นเกิดจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่บุกเข้าจู่โจมถล่มแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ด้วยการส่งสแปมเข้ามาก่อกวนในความเร็ว 400,000 ตัวต่อวินาที จนทำให้แพลตฟอร์มไม่สามารถทำงานได้ในที่สุด (Distributed Denial-of-Service - DDoS) ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เหล่านักลงทุนในอุตสาหกรรมต่างพากันขนานนามผู้ที่โจมตี Solana ในครั้งนี้ว่า ผู้ฆ่า Ethereum เลยทีเดียว

G Wn2nfj Tw G3 Uw Wym Ccxfaj 1200 80.jpg

ราคา SOL ร่วงหนักหลังเครือข่ายล่ม

จากเหตุการณ์ที่ทำให้เครือข่ายต้องหยุดทำงานไปชั่วขณะ ได้ส่งผลให้ราคาของ SOL หรือ เหรียญประจำ Blockchain ของ Solana ร่วงลงไปเกือบ 7% อยู่ที่ 84 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าก่อนหน้านี้ ราคาซื้อขายของเหรียญจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ 89 ดอลลาร์สหรัฐแล้วก็ตาม

เครือข่าย Ethereum เองก็กำลังเผชิญปัญหาที่คล้ายกัน

Solana ถูกจัดอันดับให้เป็นเครือข่าย Blockchain อันดับที่ 2 ที่ต้องเผชิญปัญหากับปริมาณการทำธุรกรรมในจำนวนมหาศาลที่มีความเกี่ยวข้องกับ NFT เป็นส่วนใหญ่ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยต้นทุนการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum นั้นได้พุ่งทะยานขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยเดิมอยู่ที่มูลค่ามากกว่า 450 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ทาง Yuga Labs ได้ออกมาเปิดตัวคอลเลกชันที่ดิน NFT ตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Otherside จำนวนกว่า 55,000 แปลงด้วยกัน ส่งผลให้ผู้ใช้งานบางรายต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม และค่าธรรมเนียมในการมินต์ผลงาน NFT แต่ละชิ้นในราคาที่สูงกว่า 5 Ether (ETH) หรือ เทียบเท่ากับ 14,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางฝั่งของศิลปินผู้สร้างผลงานกำลังเตรียมพิจารณาย้ายการมินต์ผลงานของตนเองออกจากเครือข่าย Ethereum ไปยังเครือข่าย Layer – 1 อื่น ๆ เพื่อปรับปรุงในการปรับขนาดให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนั่นเอง

Otherdeedyugalab 1024x557.png
ที่ดินจากโปรเจกต์ Otherside ของ Yuga Labs
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความหวัง “Santa Claus Rally” ของ Bitcoin เริ่มริบหรี่ หลังราคาทำจุดต่ำสุดในเดือนธันวาคม
Bitcoin เผชิญการปรับฐานครั้งใหญ่เป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่ชัยชนะในการเลือกตั้งของ Trump
โจรกรรมคริปโตพุ่ง! สูญเสียกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 40% จากปีที่แล้ว
Metaplanet ทุ่มซื้อ Bitcoin ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่ากว่า $60 ล้านดอลลาร์